วันจันทร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2552

รัก....แบบไหน ที่ใจต้องการ


"เพราะรักในแบบของใคร ก็เป็นแบบของมันไม่มีแบบแผนตายตัว"
- อย่าฝืนใจรัก ถ้ามันไม่ใช่
- ไม่มีประโยชน์อะไร ที่จะคบใครสักคน เพียงเพราะอยากจะมีใครสักคน
- อย่าเปลี่ยนตัวเองเพียงเพื่อให้เขามารัก เพราะจะทำได้ไม่นาน วันหนึ่งคุณจะรู้สึกเหนื่อยเพราะความรัก ที่ไม่เป็นตัวของตัวเอง
- อย่าหลงในรสชาติของความรักเสียจนลืมชีวิตประจำวันของตัวเอง
หรือสูญเสียความเป็นส่วนตัว

คนที่พร้อมจะอยู่กับคุณ โดยที่คุณไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอะไรในชีวิตเลย
- คนที่พร้อมจะเดินหน้าเมื่อคุณเดินหน้า คนที่พร้อมจะถอยหลังไปกับคุณ
- คนที่ไม่ยอมให้คุณเดินตามหลัง ขอเพียงเดินเคียงข้างกัน
- คนที่ไม่บังคับให้คุณทำอะไรในแบบที่คุณไม่ชอบ
- คนที่ไว้ใจ ให้อภัย ให้โอกาส ซื่อสัตย์และให้เกียรติคุณ
...นั่นแหล่ะ คือคนที่รักคุณจริง.....
จงถนอมคนเหล่านี้ไว้ อย่าปล่อยให้เขาไปจากคุณ..
เพราะคุณจะเสียใจ หากเขาเปลี่ยนไปหยิบยื่นความโชคดีที่ควรจะเป็นของคุณไปให้คนอื่น

คนที่รักคนที่เปลือกนอกมีอยู่เยอะเหลือเกิน
ชีวิตคนคนหนึ่งจะมีคนที่รักคุณจริงผ่านมาสักกี่คน
ใครที่บอกว่ารักคุณแล้วพยายามจะเปลี่ยนคุณ ดึงคุณให้เดินตามทางของเขา
เขาไม่ได้รักคุณจริงหรอก...เขารักตัวเอง

จงเชื่อในพรหมลิขิต จงเชื่อในเหตุการณ์ที่นำพาความรักมาให้
อย่าบอกว่าไม่รัก ถ้าไม่สามารถสบตาเขาอย่างบริสุทธิ์ใจได้
อย่าบอกว่ารัก..ถ้าคุณไม่รู้สึกวูบวาบเวลาอยู่ใกล ๆ
อย่าบอกว่าไม่คิดถึง..ถ้าหัวใจไม่อาจลืม
อย่าบอกว่าคิดถึง ถ้าเพิ่งจากกันไม่ถึง 1 นาที
อย่าปล่อยให้สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเราหลุดลอยไป
ลองคุยกันมากขึ้น รับรู้ความรู้สึกของอีกฝ่ายด้วยใจ
จะทำให้เรารู้ว่าเราโชคดีแค่ไหนแล้วที่ได้รู้จักความรัก
อย่าปล่อยให้ใครคนใดคนหนึ่งมีน้ำตา ทั้ง ๆ ที่อีกคนหนึ่งกำลังดีใจ
อย่าปล่อยให้ใครอีกคนหนึ่งยิ้ม ทั้ง ๆ ที่อีกคนหนึ่งกำลังร้องไห้
อย่าปล่อยให้ใครคนใดคนหนึ่งพูด ทั้ง ๆ ที่อีกคนหนึ่งไม่ต้องการฟัง

ความรักต้องมาจากความรู้สึกของคนสองคน..
อย่าให้ใครคนใดคนหนึ่งหยิบยื่น แต่อีกคนหนึ่งไม่ต้องการ
ความรักเป็นเพียงสายใยบาง ๆ ที่มันถูกหล่อหลอมขึ้นจากความรู้สึกต่าง ๆ
ทั้งความอาทร ห่วงใย ห่วงหา คิดถึง
ความอดทนจะทำให้อุปสรรคต่าง ๆ ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
ความพยายามจะทำให้เราสองคนยังคงอยู่
ความไว้ใจจะทำให้ความรักของเราแข็งแกร่ง
ความซื่อสัตย์จะทำให้ความรักของเรามั่นคง
ความเสมอต้นเสมอปลายจะทำให้ความรักของเราสวยงาม
และสุดท้ายความรักก็จะก่อตัวขึ้นเป็นความผูกพัน
สิ่งเหล่านี้จะทำให้สายใยบาง ๆ ของความรัก
กลายเป็นเชือกเส้นหนาที่ผูกคนสองคนไว้ด้วยกัน
มันจะเป็นเชือกที่มัดเราไว้ด้วยกัน เป็นเชือกที่ทำให้เราไม่อึดอัด
เราจะไม่ดิ้นรนที่จะพยายามหลุดออกจากเชือกเส้นนี้

เมื่อได้เจอความรักที่ดีแล้ว จงทำให้เขารู้สึกว่าเขาไม่ได้อยู่คนเดียว
อย่าปล่อยให้เขาโดดเดี่ยว อย่าปล่อยให้เขาเดียวดาย
คิดถึงสิ่งดี ๆ ที่เราเคยมีกัน อย่าลืมวันแรก ๆ ที่เรารู้สึกกับคน ๆ นี้
เขาเป็นคนดีที่สุดแล้วสำหรับเรา พยายามรักษาเขาไว้
เพราะเมื่อเขาหลุดลอยไปแล้ว เราจะไม่สามารถเรียกความรู้สึกต่าง ๆ กลับมาได้อีก
เหมือนเวลาที่ไม่สามารถย้อนเดินกลับ
ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด เพราะอดีตแก้ไขอะไรไม่ได้อีกแล้ว
อย่าทิ้งหัวใจของคุณไว้กับอดีต อย่าคิดว่าอดีตไม่มีวันหวนคืน
อย่าคิดว่าไม่มีพรุ่งนี้ อย่าลืมบทเรียนของเมื่อวาน
ทุกชีวิตยังมีความหวังอยู่เสมอ จงปล่อยให้ชีวิตดำเนินต่อไป.
.

วันหนึ่งถ้าชีวิตหวนคืนมาสู่ทางสายเก่า..
ที่เคยทำให้คุณมีความสุขระหว่างเดินทางในแต่ละก้าว..จงอย่าเดินเลี่ยงมันไปอีก
เพราะน้อยนักที่ถนนสายเดิมยังคงสภาพเดิมเพื่อรอให้คุณเดินย้อนกลับมา..
ลองเดินต่อไปสิ..บางทีคุณอาจจะเจอจุดหมายที่คุณค้นหามาตลอดชีวิต
ในเส้นทางที่คุณเคยเดินเลี่ยงมันไปก็ได้...


คุณว่าจริงไหม?





40 เรื่องรักที่ไม่รู้ไม่ได้


1.อารมณ์หึงเกิดขึ้นได้ทั้งชายและหญิง แต่อารมณ์หึงของผู้หญิงจะซับซ้อนกว่าผู้ชาย

2.ผู้ชายร้อยละ 90 ชอบผู้หญิงสวย น่ารัก แต่ผู้ชายร้อยละ 10 อยากอยู่กับผู้หญิงฉลาดและเฉลียว

3.คนที่มีแฟนขี้หึงขั้นรุนแรงมีเพียง0.000001เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่ชอบ นอกนั้นรู้สึกว่าอึดอัด ผู้ชายทั้งหลายควรจะดีใจที่มีแฟนขี้หึงซะ

4.ไม่เคยมีคู่ไหนไม่ต้องใช้ความอดทนในการรัก เพียงแต่จะเป็นการอดทนในรูปแบบไหนเท่านั้นเอง

5.คนที่มีกิ๊กนอกเหนือจากแฟนตัวจริง คือคนที่ไม่ศรัทธาในความรัก

6.อย่ากลัวการอกหัก เพราะไม่เคยมีใครตายจากโรคอกหัก มีแต่ความอ่อนแอเท่านั้นที่ทำให้ฆ่าตัว ตาย

7.ความรักมักไม่เกิดตอนที่เฝ้ารอ แต่เมื่อปล่อยตัวตามสบาย ความรักมักจะมาทำเซอร์ไพรส์ให้หัวใจ

8. ถึงจะไว้ใจเพื่อนแค่ไหน ก็อย่าให้เพื่อนกับแฟนของเราสนิทกันเกินไปเพราะหายนะอาจตามมา

9.ถ้าเรารู้สึกอายเวลาเดินเคียงข้างแฟนที่ขี้เหร่ นั่นหมายความว่าเราไม่ได้รักเค้าจริง

10.อย่าบ่นให้ใครฟังว่าแฟนไม่เคยทำตัวดีขึ้นเลย เพราะจะโดนย้อนว่า " แล้วจะโง่ทนคบอยู่ทำไม"



11.ถ้ารู้ตัวว่าเป็นคนที่ขี้หึงขั้นรุนแรง อย่าได้เลือกคบผู้ชายที่หน้าตาและมนุษยสัมพันธ์ดีเด็ดขาด

12.การที่ผู้ชายมองผู้หญิงสวย เซ็กซี่ จนเหลียวหลัง ไม่ได้หมายความว่าเข้าต้องการแฟนที่เป็นแบบ นั้น

13.ผู้ชายที่ไว้ใจได้ว่าไม่นอกใจแฟนหรือภรรยา มีเพียงแต่ผู้ชายที่อยู่ในโลงเท่านั้น ควรจำให้ขึ้นใจ

14.พยายามทำตัวให้ดีและมีคุณค่ามากกว่าผู้หญิงที่แย่งแฟนเราไป แล้วซักวันแฟนเราจะกลับมาเอง

15.อย่าคบกับผู้ชายที่เอาเรื่องแฟนเก่ามาพูดเสียๆหายๆ เพราะเราอาจจะเป็นรายต่อไป

16.ผู้ชายที่รักสัตว์ รักเสียงเพลง รักครอบครัว น่าคบมากกว่าผู้ชายที่รักตัวเองซะอีก

17.อายุที่มากขึ้นอาจทำให้ต้องลดเสปกชายในฝันลง แต่ข้อที่ไม่ควรลดเด็ดขาดคือความดีและความจริงใจ

18.ผู้ชายที่เกาะชายกระโปรงผู้หญิงกิน ดูน่ารังเกียจกว่าผู้หญิงที่ชอบปอกลอกผู้ชายหลายเท่า

19.มนุษย์ผู้ชายมีน้อยกว่ามนุษย์ผู้หญิง ผู้ชายที่ดีและเป็นโสดก็มีน้อยกว่าผู้ชายที่เลวและมีเจ้าของด้วย

20.อย่ารักผู้ชายที่ทั้งขี้เหร่ ขี้เกียจ และขี้เมา เพราะเราจะต้องรู้สึกตกนรกไปตลอดชีวิตอย่างแน่นอน



21.คู่รักที่เดินกอดจูบกันต่อหน้าชุมชน มีแต่ฝ่ายหญิงเท่านั้นที่จะถูกประณามและดูถูกอย่างรุนแรง

22.เซ็กส์ไม่สามารถผูกมัดให้คู่รักอยู่ด้วยกันไปตลอด ความผูกพันต่างหากที่จะดึงรั้งกันไว้ได้

23.อายุไม่ใช่อุปสรรคของความรัก ถ้าความคิดหัวใจตรงกัน ความมั่นคงก็เกิดขึ้นได้

24.ในชีวิตจริงของความรัก เราอาจไม่ใช่นางเอกที่แสนดี บางทีต้องมีการใช้ไหวพริบในการแย่งชิงบ้าง

25.คนสวยหรือคนหล่อสามรถอกหักได้เหมือนกัน ถ้าทำตัวไม่ดีหรือมีเวลาให้กับความรักไม่พอ

26.ถึงจะได้ยินว่ามีรักที่ไหนมีทุกที่นั่น แต่คนส่วนใหญ่ก็ยังเลือกที่จะมีความรักมากกว่าจะอยู่เป็นโสด

27.เรื่องที่แฟนไม่ยอมเล่าให้ฟังตั้งแต่แรกมักเป็นเรื่องที่เรารู้เมื่อไหร่ก็ต้องควันออกหูอยู่ดี

28.ถ้าชื่นชมในตัวแฟน100เปอร์เซ็นต์ ควรบอกเค้าแค่70เปอร์เซ็นต์

29.ถึงผู้ชายจะบอกว่าไม่ชอบผู้หญิงแต่งหน้า แต่ผู้ชายก็ไม่ชอบคนที่หน้ามันหรือซีดตลอด

30.ผู้ชายชอบติรูปร่างของแฟนหรือคนโน้นคนนี้ โดยลืมดูรูปร่างตัวเองว่าแย่ขนาดไหน



31.คนต่างชาติต่างภาษาสามารถรักกันได้ เพราะภาษาหัวใจเป็นภาษาสากลที่ไม่ต้องการคำแปล

32.ผู้ชายต้องใช้สมองและทักษะมากขึ้นในช่วงที่มีความรัก เพราะผู้หญิงมักปากไม่ตรงกับใจ

33.ผู้ชายชอบเป็นฝ่ายไล่ล่า มากกว่าจะเป็นฝ่ายถูกล่า ฉะนั้นจึงไม่แปลกที่จะพยายามหนีเมื่อถูกตามตื้อ

34.ผู้หญิงอาจไม่ได้เรียกร้องอะไรมากขึ้น แต่เป็นเพราะผู้ชายไม่สามารถทำดีได้เสมอต้นเสมอปลาย

35.รักแรกพบสามารถเกิดได้แค่ 10 เปอร์เซ็นต์ นอกนั้นเกิดจากการใกล้ชิด และการเรียนรู้กันอย่างลึกซึ้ง

36.คนที่เรารักกับคนที่รักเราอาจไม่ใช่คนเดียวกันเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าคนเราบังคับหัวใจกันไม่ได้จริงๆ

37.ทุกคนจะเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นเมื่อได้มีความรักและเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นอีกหลังจากอกหัก

38.มือที่สามสามารถเดินเข้ามาในชีวิตเราได้ตลอดเวลา ในความไว้ใจจึงควรมีความระวังอยู่ด้วย

39.อย่ารีบมีแฟนหลังจากอกหัก เพราะเราจะแยกแยะไม่ออกว่านั่นเป็นรักหรือการฆ่าเวลา

40.คนที่รักกันไม่จำเป็นต้องเดินจับมือหรือคุยกันตลอดทางแค่รู้สึกว่ามีกันและกันก็เพียงพอ


http://webboard.yenta4.com/topic/333871

ช่วงนี้ไม่รู้เป็นอะไร ถึงได้อ่านเจอแต่เรื่องรักๆ ที่น่าสนใจ.. มาดูกันว่า วิธีรักอย่างมีกึ๋น..ของผู้หญิงฉลาด เค้าเป็นยังไง

ต้องใช้ชีวิตให้คุ้มค่า
ถ้าคุณไม่เห็นคุณค่าในตัวเองก็อย่าหวังว่าใครอื่นจะมองเห็น การที่คุณหลงรักใครสักคน และต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อเค้าคนนั้น อาจจะไม่ใช่สิ่งที่ดีนัก เมื่อคุณเปลี่ยนเขาก็จะหมดความสนใจในตัวคุณ หากเทียบกับตอนที่เขาหลงรักคุณใหม่ๆ เขารักในตัวตนของคุณไม่ใช่คนที่เขาใฝ่ฝันอยากให้เป็น ซึ่งเป็นเพียงจินตนาการของผู้ชายเท่านั้น แต่คุณเป็นคนในโลกแห่งความจริง จงเป็นตัวของตัวเองและปรับเปลี่ยนเพียงพฤติกรรมบางอย่าง เพื่อตัวคุณเองนะ ไม่ใช่เพื่อเขา

เซ็กซ์ไม่ใช่เรื่องง่าย
ก่อนที่ผู้หญิงฉลาดจะสนิทสนมกับใครสักคนทางกาย ควรรู้จักเขานานพอที่จะรู้ว่าเขาเป็นคนอย่างไร รักสุขภาพตัวเองแค่ไหน และควรให้แน่ใจว่าหากคุณมีสัมพันธ์กับเขา คุณจะปลอดภัยทั้งทางจิตใจและร่างกาย และถึงแม้ว่าเขาจะดีพร้อมทุกอย่างก็ไม่จำเป็นว่าคุณจะต้องนอนกับเขาหากคุณไม่พร้อม เสรีภาพทางเพศหรือฟรีเซ็กซ์ควรควบคู่ไปกับความรับผิดชอบด้วย เรารู้จักผู้ชายได้โดยไม่ต้องมีเซ็กซ์เลยด้วยซ้ำ หากเขาจริงจังกับคุณ

ผู้ชายแสนดีไม่จำเป็นต้องหล่อ
หากคนที่คุณคบอยู่เป็นคนดีและคุณชื่นชอบเขา ติดเพียงแค่เขาไม่ใช่หนุ่มหล่อในสเป็ค ให้คุณลองมองดูในจุดดีของเขา และลองมองดูถึงอนาคตว่าเขาจะสามารถใช้ชีวิตอยู่กับคุณได้ด้วยความสุขหรือไม่ ลองสังเกตแฟมิลี่แมนที่ไปเดินชอปปิ้งในซูเปอร์มาเกต หรือพาแฟนไปเดินเที่ยว หรือทานดินเนอร์ เขาเหล่านั้นใช่จะหน้าตาดีไปซะทุกคนซะหน่อย ลองมองที่จิตใจแล้วคุณจะเห็นความ(ดี)งาม

ความเป็นเพื่อนยาวนานกว่าความรัก
คู่รักคือมิตรภาพที่ยาวนาน นั่นคือคุณสามารถพูดคุยกับเขาได้ทุกเรื่องไม่เว้นเรื่องกระจุกกระจิกของผู้หญิง ถึงแม้เขาจะไม่เข้าใจแต่เขาจะตั้งใจฟังคุณและช่วยคุณแก้ปัญหา

ความรักมีปริมาณ 50-50
การที่ต่างฝ่ายต่างมอบความรู้สึกห่วงใยซึ่งกันและกันอยู่เสมอ เป็นสิ่งที่ดี ทุกคู่ควรเป็นทั้งฝ่ายรับและฝ่ายให้ เพราะถ้าอีกฝ่ายเป็นคนให้มากเกินไปเขาอาจจะรู้สึกอึดอัดและรู้สึกผิด เพราะเหมือนเป็นการโดนหลอดใช้ ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อความรักในระยะยาว การมอบสิ่งดีๆให้แก่กัน เป็นสิ่งที่ไม่ยากเพียงพยายามฟังและเข้าใจในสิ่งที่เขาพูดหรือต้องการ

ทุกคนมีพื้นที่ส่วนตัว
การที่คบกันไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกันตลอดเวลา คุณเองก็ต้องการจะไปไหนมาไหนกับเพื่อนผู้หญิงบ้าง พูดคุยกันในเรื่องที่คุยได้เฉพาะกับผู้หญิง เขาก็เช่นกันต้องการไปสังสรรค์กับเพื่อน หรือแม้แต่ใช้เวลาว่างเท่าที่เขาต้องการ แต่ต้องไม่ใช่ละเลยคุณ แต่คุณอาจจะมีส่วนร่วมในกิจกรรมกับเขาบ้าง แค่อย่าไปจุกจิกกับเขามากนักเลยนะ

เราไม่มีวันเปลี่ยนแปลงผู้ชายได้
ไม่มีใครจะเปลี่ยนแปลงเขาได้ นอกเสียจากเขาต้องการจะทำเช่นนั้นเอง ฉะนั้นอย่าเสียเวลาในการขอร้องให้เขาเปลี่ยนแปลง เอาเวลาที่มีค่านั้นมาปรับปรุงสถานการณ์บางอย่างของคุณและเขาให้มีแต่ความสัมพันธ์ดีๆดีกว่านะ หรือคุณอาจจะเป็นฝ่ายปรับเปลี่ยนตัวเอง คุณสามารถทำอะไรได้ตั้งหลายอย่างเพื่อให้ชีวิตคุณดีขึ้น แต่อย่าลืมว่าอย่าเปลี่ยนไปซะหมดเพราะเขาคงไม่ชอบใจแน่ และหากเขาแสดงการกระทำที่ไม่ให้เกียรติคุณ เขาก็ไม่สมควรได้รับในสิ่งดีๆที่คุณพยายามหรือความห่วงใยจากคุณแล้วล่ะ อย่าปล่อยให้เขาทำตัวแย่กับคุณ เพราะเขาจะยิ่งทำตัวแย่มากขึ้นเรื่อยๆ

งานบ้านไม่ใช่หน้าที่เฉพาะผู้หญิง
อย่ากลัวที่จะขอให้เขาช่วยเหลือ บางครั้งที่เขาไม่ช่วยเพราะเขาไม่สนใจมันจริงๆ หรือเขาคิดว่าคุณอยากจะทำเอง หรือเขาอาจจะขี้เกียจ แต่ในเมื่อคุณไม่ขอเขาก็ไม่ทำ และหากเขาช่วยงานคุณแล้ว อย่าอยู่ใกล้คอยชี้นิ้วสั่ง และอย่าเข้าไปทำเสียเองหากเขาทำไม่ได้ดั่งใจคุณ อย่าลืมว่าเขาต้องการการฝึกฝน คอยแนะนำการทำงานของเขาแต่อย่าตำหนิเมื่อเขาทำพลาด สิ่งที่สำคัญคือการที่เขารักคุณไม่ได้หมายความว่าคุณต้องรับใช้เขา ผู้ชายที่ทำงานบ้านเป็นผู้ชายที่แสนจะเซ็กซี่และน่ารักที่สุด

การแต่งงานไม่ใช่กระดาษแผ่นเดียว
ความผูกพันระหว่างคนสองคนต้องการเวลาและขั้นตอนในการพัฒนาตนเอง ซึ่งไม่จำเป็นต้องมีบ้านสวยหรู หรือแหวนเพชรวงโต และไม่ใชการมีเซ็กซ์เท่านั้น การแต่งงานคือการประนีประนอมเพื่อความเข้าใจในการใช้ชีวิตคู่ ชีวิตคู่ไม่ต้องโรแมนติกตลอดเวลา ก็สามารถมีความหมายลึกซึ้งและเป็นรักที่แท้และฉลาดได้

...........................................

แต่เรื่องความรัก อะไรๆ ก็เป็นไปได้เสมออ่ะนะ

http://webboard.yenta4.com/topic/213

วันอาทิตย์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ทำไมต้องยอมทำทุกอย่างเพื่อคนที่เรารัก

ตะละแม่วีนัส

นั่นสิ หากเรารักใครสักคน เราต้องยอมเสียสละทุกอย่างด้วยหรือ ชีวิตคู่ที่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดต้องเสียสละอยู่ข้างเดียวจะพบความสุขแท้จริงได้อย่างไร การประนีประนอมจึงเป็นหนทางที่ดีที่สุด เพื่อประคองความรักให้อยู่รอดปลอดภัย

เรื่องสำคัญที่ควรหาทางประนีประนอม

งาน
ส่วนใหญ่ผู้หญิงมักต้องเป็นฝ่ายละทิ้งหน้าที่การงาน แม้จะรักงานนั้นแค่ไหนก็ยังยอม เพราะผู้ชายมักเป็นฝ่ายมีรายได้สูงกว่าผู้หญิง จึงเป็นรายได้หลักของครอบครัว คนทั้งบ้านต้องพึ่งพาว่างั้นเถอะ ดังนั้นหากเกิดกรณีต้องย้ายไปรับตำแหน่งงานที่สูงขึ้น รายได้ดีกว่าเดิม ฝ่ายหญิงจึงมักต้องลาออกละทิ้งงานของตัวเอง เพื่อติดตามคนรัก ถ้าไม่ลาออกมาอยู่บ้านเฉยๆก็ต้องหางานใหม่ที่ไม่สบอารมณ์เท่าไรนัก การต้องทนทำงานที่ใจไม่รัก ย่อมไม่มีความสุข นับวันมีแต่จะเหี่ยวเฉาลงทุกที คำถามคือ เราต้องยอมละทิ้งความก้าวหน้าในชีวิตเพื่อให้ได้อยู่เคียงข้างเขาอย่างนั้นหรือ แทนที่จะแก้ปัญหาง่ายๆแบบนั้น น่าจะลองคิดหาวิธีประนีประนอมพบกันครึ่งทางดีกว่า


ลูก
มีผู้หญิงมากมายที่ยอมละทิ้งความฝันที่อยากมีลูก เพียงเพราะอีกฝ่ายไม่ต้องการให้เด็กมาวิ่งยั้วเยี้ยเต็มบ้าน คู่ที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งปฏิเสธการมีลูก มักสร้างความขุ่นเคืองให้ก่อเกิดขึ้นในใจ ฝ่ายที่ผิดหวังถูกปฏิเสธจะเก็บกดความหงุดหงิดไว้ในเบื้องลึก และจะกลายเป็นเงื่อนไขสำคัญอันหนึ่งที่ทำให้ชีวิตคู่พังพินาศวอดวาย ผู้หญิงบางคนขมขื่นสูญเสียมหาศาลเสียจนรู้สึกว่าชีวิตทั้งชีวิตถูกทำลายไม่เหลือชิ้นดี เรื่องแบบนี้ประนีประนอมกันได้ยาก ทางที่ดีควรจับเข่าพูดคุยตกลงกันเสียเนิ่นๆตั้งแต่ยังหวานชื่นกันใหม่ๆ คุยเปิดใจกันอย่างตรงไปตรงมาถึงความรู้สึก ความตั้งใจ และเรื่องสำคัญในชีวิตตามลำดับก่อนหลัง เพื่อไม่ให้เสียเวลาของกันและกัน


ความเป็นส่วนตัว
ความเป็นส่วนตัวคือสิ่งที่ทุกคนปรารถนา อาชีพการงานที่ยุ่งยากวุ่นวายในปัจจุบันทำให้ทุกคนคิดว่า ความเป็นส่วนตัวคือสิ่งพิเศษที่ยากเกินไขว่คว้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่มีพันธะยิ่งหมดสิทธิ์พูดถึงความเป็นส่วนตัวกันเลย ความจริงการที่เรามีชีวิตคู่ไม่ได้หมายความว่าเราจะหาความเป็นส่วนตัวไม่ได้ ความเชื่อเก่าๆคือ คนเป้นพ่อเป็นแม่จะมีเวลาเป็นส่วนตัวได้ก็ตอนลูกไม่อยู่บ้านเท่านั้น ซึ่งความจริงเราสามารถสร้างความเป็นส่วนตัวให้ตัวเองได้ถ้าอยากจะทำ เช่น ทำห้องนอนเป็นอาณาจักรส่วนตัว หรือใช้ห้องอื่นในบ้านก็ได้ อยู่ตามลำพังวันละสองชั่วโมง ห้ามใครรบกวนโดยเด็ดขาด หรือไม่ก็ขอใช้บ้านเพื่อนสักวันละสองชั่วโมงเวลาเพื่อนไม่อยู่บ้าน หรือออกไปนอกบ้านอาทิตย์ละครั้ง นั่งร้านอาหารหรืออ่านหนังสือในร้านกาแฟคนเดียว หาทางปลีกวิเวกเป็นประจำแบบนี้จะช่วยได้เยอะเชียวละ

วิธีหลีกเลี่ยงการสิ้นเปลืองชีวิตไปกับคนอื่น

อย่าปล่อยให้ความหลงครอบงำตั้งแต่เริ่มต้น
ข้อนี้ง่ายมากคือ อย่าอือออตกลงหรือยอมรับในเรื่องที่เราไม่ได้เห็นด้วยจริงๆ นอกเสียจากว่ากำลังตกอยู่ในอาการหน้ามืดตามัวขนาดหนัก บางครั้งอารมณ์พาไปในขณะนั้น เขาชี้นกแล้วบอกว่าหมา เรายังอือออห่อหมกเห็นด้วยหน้าตาเฉย พอมาตอนหลังอยากเขกหัวตัวเองจริงจริ๊งว่าทำไมใจง่ายจัง กฎง่ายๆคือ ควรมองคนที่จุดมุ่งหมายและการใช้ชีวิต เลือกคนที่มีความฝันหรือความหวังในชีวิตที่เข้ากับเราได้เป๊ะๆ หรือเลือกคนที่เชื่อในความฝันของเราและต้องการมีส่วนช่วยให้ฝันนั้นเป็นจริง


อย่าทำอะไรให้ใครถ้าเราไม่หวังให้เขาตอบแทน
เวลาเราทำทุกอย่างให้คนรักด้วยความรักสุดหัวใจ ลองหยุดคิดแล้วถามตัวเองสิว่า เขาจะทำแบบนี้ให้เราบ้างหรือเปล่า เขาขอร้องไม่ให้เราเที่ยวสำมะเลเทเมา แล้วเขาทำได้หรือเปล่า สัมพันธ์รักแบบนี้มีความเท่าเทียมกันไหม ยุติธรรมพอหรือเปล่า เราเคยขอร้องให้เขาทำในสิ่งที่เราเองยังทำให้เขาไม่ได้บ้างไหม มีตัวอย่างให้เห็นง่ายๆ เช่น ผู้หญิงมากมายที่ยอมละทิ้งหน้าที่การงานและสังคมนอกบ้าน เพราะสามีขอร้องให้อยู่เลี้ยงลูกดูแลบ้าน แต่ตัวสามีก็ยังแร่ดๆอยู่นอกบ้านเหมือนเดิม ไม่ได้รีบกลับบ้านมาอยู่กับลูกเมียให้มากขึ้น สิบห้าปีผ่านไป ภรรยายังงมโข่งดักดานอยู่กับบ้าน ส่วนสามีก็ดอดไปมีอีหนูในที่ทำงาน นี่คือตัวอย่างของความเหลื่อมล้ำอย่างเห็นได้ชัด เพราะฉะนั้นควรตกลงประนีประนอมกันให้ดี ให้ยุติธรรมและไม่มีฝ่ายใดเสียเปรียบหรือได้เปรียบจนเกินไป


อย่าผัดผ่อนเรื่องใดๆนานเกินสองปี
ไม่ควรมีเรื่องใดในชีวิตที่ต้องรอคอยนานเกินสองปี หากดูท่าไม่ดี เราสามารถยื่นคำขาดได้ทันที โดยการเรียกร้องสิทธิ์ที่เราควรได้ หรือในกรณีที่เราต้องเป็นฝ่ายเสียสละครั้งแล้วครั้งเล่า ยอมทิ้งโอกาสดีๆในชีวิตเพื่อให้เขาได้สิ่งที่ต้องการ แม้จะมีภาษิตว่าความรักคือการเสียสละ แต่ถ้าเราต้องเสียสละอยู่ฝ่ายเดียวเป็นเวลานานนับปีโดยที่เขาไม่เคยเป็นฝ่ายตอบแทนเราเลย เอาแต่เรียกร้องอยู่ตลอดเวลา นั่นแสดงว่าเขาไม่ได้รักเรามากเท่าที่เรารักเขา ถ้ายังอยากใช้ชีวิตเคียงข้างเขาต่อไป เราก็ต้องเป็นฝ่ายเสียสละตลอดชีวิตจนกระทั่งวันตายนั่นแหละ


ถามตัวเองสิว่า นี่คือชีวิตที่ต้องการหรือ
จำเอาไว้ว่า แม้เราจะมีคนรักมากมายสักเพียงใด มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถปั้นแต่งชีวิตเราให้ออกมาในรูปใดก็ได้ คนๆนั้นก็คือตัวเรานี่แหละ เมื่อถึงเวลาต้องหันหน้ารอมชอมกัน เราควรเอาความหวังความฝันและความสามารถทั้งมวลของเราเป็นที่ตั้ง ความรักคือการเสียสละก็จริง แต่ความรักชั่วนิรันดร์นั้นต้องมีความยุติธรรมและเสมอภาค ดังนั้นเราสามารถพลิกชีวิตเปลี่ยนคนรักได้หากความสัมพันธ์นี้ไม่เวิร์ค ไม่ต้องเสียใจที่เลิกรากัน ออกเดินหน้าหาคนที่เขายอมเราและเรายอมเขาในอัตราส่วนเท่าๆกัน ไม่ต้องมีใครเป็นฝ่ายยอมอยู่ข้างเดียว หมดสมัยแม่พระที่ยอมบูชายันตัวเองเพื่อคนที่รัก ชีวิตคู่คือการรอมชอมถนอมน้ำใจกัน เพื่อให้ความรักอยู่รอดปลอดภัยตราบนานเท่านาน




http://blog.hunsa.com/007hotnews/blog/26771

หากรักคือทุกข์..อยากรักไปทำไม?

จริงมั้ย เมื่อที่ใดมีรักที่นั้นย่อมมีทุกข์....
เลยเกิดคำถามว่า แล้วทำไมใคร ๆ ก็อยากมีความรัก?
ในเมื่อมีรักแล้ว บ้างร้องไห้ บ้างเสียใจ บ้างก็อยู่กับตัวเองไม่ได้ บ้างก็อยากจะตาย!!!
แล้วทำไม ใคร ๆ ยังไขว่ขว้า ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มันมา เอ๊ะ!!! หรือเพราะว่า ที่ทุกข์
ที่ร้องไห้ ที่อยากตาย ที่อยู่กับตัวเองไม่ได้ ไม่ได้เป็นเพราะความรัก แต่เป็นเพราะความอยากได้
ที่อยู่ในใจเราเอง คิดว่าเรารักเค้า..เลยอยากให้เค้ารักเรา ทุกข์หนึ่ง ..ถ้าเขาไม่ได้รักเรา..ทุกข์สองละ
เกิดเขารักเราขึ้นมาจริง ๆ ก็กลัวว่าเขาจะมีคนอื่น กลัวเขานอกใจ ทุกข์สาม เกิดต้องเสียเขาไปจริง ๆ
ทุกข์สี่ละ นี่ขนาดยังแค่เริ่มต้นมีความรัก ความทุกข์ก็ยกโขยงกันมาทักทายซะขนาดนี้ ว้า....แล้วแบบนี้
ก็ไม่ต้องมีความรักกันพอดีสิ ใช่มั้ย? ถ้ามองแบบนี้มันมีแต่ทุกข์ เราลองเปลี่ยนมุมมองกันดูมั้ย จากที่เรารัก
เค้าแล้วอยากให้เขารักเราบ้าง เราก็คิดว่า แหมชีวิตนี้ได้มีโอกาสเจอคนในแบบที่เราฝันและได้รัก ก็พอแล้ว
อย่างน้อยเราก็ได้รู้ว่าคนแบบไหนที่เราอยากจะรัก เชื่อว่าช่วงเวลานั้นก็น่าจะมีความสุขใจอยู่ไม่น้อย
เก็บมันไว้นึกถึงตอน เหงา ๆ ก็ยังดีกว่าไม่เหลือความทรงดี ๆ ให้คิดถึงตั้งเยอะนี่นา
ไม่ว่ารักนี้จะทำให้เราเป็นทุกข์ หรือ เป็นสุข ก็อย่าได้โทษความรักเลย เพราะที่เราเป็นทุกข์
เราไม่ได้ทุกข์ความรักหรอก แต่ทุกข์เพราะความต้องการของใจเราเอง แต่แค่เราลองเปลี่ยนมุมที่เคยยืน
และมองไปในทิศตรงข้ามดู เราอาจเจอในสิ่งที่เราไม่เคยรู้ และอยู่กับมันได้มีความสุขมากขึ้นก็ได้
ถ้าเราคอยแต่จะมองเวลาพระอาทิตย์ขึ้นว่ามัน.สวยสดงดงามเพียงใด และเป็นทุกข์กับการรอคอย
ว่าเมื่อไหร่มันจะขึ้นมาให้เราเห็นอีก หากเพียงเรารู้จักที่จะหันไปในทิศตรงข้ามก็จะเห็นว่า
ตอนพระอาทิตย์ตก...มันก็สวยสดงดงามไม่แพ้กัน....ทุกเรื่องในชีวิตไม่ว่ามันจะเลวร้ายแค่ไหน
มันขึ้นอยู่ที่ว่า เราเลือกจะมองมันที่มุมไหนต่างหาก.....ไม่อะไรอยู่กับเราได้ตลอดไปหรอก
ทุกอย่างผ่านเข้า แล้วก็ล้วนต้องผ่านออกไปทั้งนั้น ไม่มีใครหัวเราะได้ทั้งวัน เฉกเช่นเดียวกัน
ก็ไม่มีใครร้องไห้ได้ทั้งวัน ร้องไห้แล้วก็ร้องให้มันเข้าใจสัจธรรมชีวิตไปด้วย......
ถึงจะทุกข์ก็ยังคงพอยิ้มได้ ถึงจะหัวเราะไม่ไหว แค่ยิ้มได้ก็ยังดี


by สายลมที่หวังดี



http://pakgad.multiply.com/journal/item/25

วันพฤหัสบดีที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2552

นิยามความรัก


*- บางคนผ่านเข้ามาในชีวิตเราและก็ผ่านไป ในขณะที่บางคนได้เข้ามาและทิ้งรอยไว้ในใจเรา และสิ่งนั้นทำชีวิตเราเปลี่ยนแปลงไปไม่เหมือนเดิม


*- ชีวิตได้สอนเราว่า ความรักไม่ได้ประกอบด้วยการจ้องมองซึ่งกันและกัน แต่เป็นการมองออกไปข้างนอกด้วยทิศทางเดียวกัน*- รักอยู่ได้โดยไม่ต้องใช้ดาบ ผูกมัดได้โดยไม่ต้องอาศัยเชือก


*- ความรัก คือ การที่เรามีทุกสิ่งทุกอย่างเต็มอยู่ในหัวใจ และพร้อมที่จะให้มันไหลรินไปหาผู้อื่น มากกว่าที่เราขาดอะไรในหัวใจ และพยายามหาอะไรมาเติมให้เต็ม*- ชีวิตเหมือนเข็มนาฬิกา วนเวียนไปไม่หมุนกลับ


*- กว่าจะรู้ว่าชีวิตคืออะไร ชีวิตก็ยืนยาวมาตั้งครึ่งแล้ว


*- บางครั้งความรักก็เข้ามาหาเรา เพื่อให้เราเรียนรู้ มิใช่ให้เราครอบครอง


*- หน้าที่ของความรัก คือการเดินไปมอบความรัก และยืนเฉยๆ เพื่อรับมันไม่ใช่การดิ้นรนเพื่อให้ได้มา


*- ความรัก มิใช่การเข้าไปเป็นชีวิตเขา แต่คือการเข้าไปอยู่ข้างๆ ชีวิตเขา


*- ความห่างไกลมันทรมานเวลาเจอกันจึงหอมหวาน และเป็นความทรงจำที่เก็บไปนั่งเพ้อฝันได้ในวันจาก


*- ฉันรักเป็นเพราะเธอสอน ฉันรู้สึกเป็นเพราะเธอจุดประกายความรู้สึกที่ฉันไม่เคยเจอ และฉันมีชีวิตอยู่เพราะเธอ...


*- ไม่ใช่ว่าฉันจะไม่สามารถมีชีวิตอยู่ถ้าหากขาดเธอไป เพียงแต่ฉันไม่อยากลองเท่านั้น


*- ไม่มีสิ่งใดสามารถรักษาสิ่งที่เรารักให้อยู่กับเราตลอดไป นอกเสียจากความทรงจำ


*- ความภาคภูมิใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุด มิใช่การที่ไม่เคยพ่ายแพ้ แต่คือการลุกขึ้นยืนหยัดในทุกครั้งที่เราล้ม


*- เวลามิใช่ยา แต่การเยียวยาต้องใช้เวลา


*- ที่เราต้องเจ็บปวดกับความรักน่ะ ไม่ใช่เพราะมันจากไปหรอก แต่เพราะมันยังคงอยู่ต่างหาก


*- ความรักที่แท้จริงก็เหมือนกับเกมจิ๊กซอร์ ชิ้นส่วนทั้งหมดจะสามารถค้นพบตัวเองได้ก็ต่อเมื่อแต่ละชิ้น สามารถหาชิ้นที่ "ใช่" สำหรับตัวมันเอง


*- มีคนบอกว่าความรักถูกซุกซ่อนอยู่ตามมุมต่างๆ ดังนั้นฉันก็ควรจะตามหารักเป็นวงกลมซิน่ะ


*- ไม่เคยไม่คิดถึง เพราะลึกซึ้งกับเธอกว่าคนไหน ไม่เคยไม่ห่วงใย เพราะเธอคือทุกความหมายในความผูกพันธ์


*- การประทับใจอาจใช้เวลาเพียงชั่วโมง การชอบใครอาจใช้เวลาเพียงชั่ววัน การรักใครอาจใช้เวลาเพียงชั่วปี แต่การลืมใครต้องใช้เวลาชั่วชีวิต


*- พระเจ้าอาจต้องการให้เราพบคนที่ไม่ใช่ ก่อนที่จะมาพบคนที่ใช่ เพื่อเวลาที่เราพบคนๆ นั้นแล้ว เราจะได้รู้สึกซาบซึ้งถึงพรที่ท่านประทานมา


*- เพื่อนที่ดีเหมือนดวงดาว คุณจะไม่ได้เห็นพวกเขาตลอดเวลา แต่คุณจะรู้ว่าเขาอยู่ที่นั่นเสมอ


*- ทำไมหัวใจต้องอยู่ข้างซ้าย หรือเพราะมันคงไม่หนักแน่นพอที่จะอยู่ตรงกลาง และคงมีไม่มากพอที่จะแบ่งเป็นสอง



นายพรเทพ นักศึกษาวิศวะ






10 วิธีดูใจก่อนเป็นแฟนใคร

ยามตกหลุมรัก แหงสิที่ใครๆ ย่อมอยากรักษาความสัมพันธ์เช่นนี้ไว้ให้ยั่งยืน ฉะนั้น จะดีกว่าไหม ถ้าจะทำความรู้จักกับ "หนึ่งในดวงใจ" ในตอนนี้ของคุณให้รู้เขารู้เราและรู้ตื้นลึกหนาบาง ก่อนจะเริ่มต้นชีวิตคู่เพื่อไม่ให้มันกลายเป็น "ชีวิตคุก" จึงขอเล่าเรื่อง 10 สิ่งที่ควรรู้ ก่อนตัดสินใจเป็นแฟนกะใครสักคน (Top 10 : Things To Know About Your Love) เพื่อเป็นแนวทาง ก่อนตัดสินใจเลือกคู่แท้ปาฏิหาริย์ มาร่วมเรียงเคียงหมอน ดังนี้
1. ความฝันและความปรารถนาของว่าที่แฟนเป็นอย่างไร แล้วที่เจอแล้วน่ะนิสัยตรงสเปกไหม?ถ้าชายใดอยากได้แฟนเป็นแม่บ้านแม่เรือน และเป็นฝ่ายรับเหมางานบ้านไปรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว หนุ่มๆก็ควรสังเกตเอาก็ได้ ว่าสาวที่เขาคบหาอยู่ เธอชอบงานบริการสมาชิกในครอบครัวเป็นชีวิตจิตใจรึเปล่า ไม่ใช่รักที่จะเป็นเวิร์กกิ้ง วูแมน ตลอดเวลา ก็คงอุทิศชีวิตให้กับอาชีพการงานมากกว่าตรงข้าม หากคุณเป็นหญิงที่ปรารถนาคู่ครองเป็นคนมีความรับผิดชอบสูง แต่ไอ้ที่มีอยู่ดูแล้วไม่ค่อยอยากรับผิดชอบอะไร เพราะแม้แต่ตัวเขาเองก็ยังรับผิดชอบไม่ได้ เช่น เสื้อผ้าใส่แล้วก็ทิ้งกองไว้เป็นเดือน หรือจานชาม กินแล้วก็ทิ้งไว้จนแมลงสาบแทะล่ะก็ จะยอมเสี่ยงเลือกคนนี้ เป็นแฟนไหมล่ะ
2. ให้ความสำคัญกับวันสำคัญของเราไหม? เช่น ครบรอบวันที่สารภาพรักครั้งแรก, วันคล้ายวันเกิด, จูบครั้งแรก หรือวันออกเดทแรก เหล่านี้ถือเป็นวันสำคัญยิ่งสำหรับผู้หญิง และเธอก็คาดหวังว่าแฟนก็ควรจำได้ด้วย แม้จำได้ไม่หมดแต่จำได้ บ้างก็ยังดีเพราะงี้ถ้าคุณเป็นฝ่าย "ไม่เอาไหน" ในเรื่องความจำ แต่ดันไปรักไปชอบกับคนจำแม่น จำเก่งล่ะก็ ถ้ายังไปกันรอดก็เชื่อเค้าเลย แต่ถ้ารีบปรับตัวก็ยังพอทำเนา
3. สุขภาพเป็นอย่างไร?คนที่คุณชอบพออยู่นั้น มีปัญหาสุขภาพด้านใดอยู่หรือเปล่า? เช่น เป็นมะเร็ง, เป็นลูคิเมีย หรือเป็น เอดส์ไหม ถ้ารู้ล่วงหน้าจะได้หาทางช่วยเหลือได้ทัน แต่หากเป็นเอดส์นี่ก็น่าคิดนะว่ายังควรจะเอามาทำแฟนอีกเหรอ อย่าว่าแต่เอดส์เลย ที่ควรระวัง เพราะแม้แต่โรคซิฟิลิส หรือโรคทางเพศสัมพันธ์ก็ควรถอนตัวไปซะเถอะ แต่ถ้าไม่สบายอย่างอื่น เช่น เจ็บคอเป็นหวัดอะไรเงียะ ควรประคบประหงมดูแลต่อไป คนเราลองจะเป็นคู่ทุกข์คู่ยากของกันและกันก็ควรเอาใจใส่หน่อยเด้
4. ประวัติครอบครัวเป็นไงบ้าง?คนที่คุณชอบพอนั้น เค้ามีความรักความผูกพันหรือขัดแย้งกับใครเป็นพิเศษ ในครอบครัวหรือเปล่า? สมาชิกในครอบครัวของเค้าลงรอย กันไหม? ถ้าไปเจอคนที่สมาชิกในครอบครัวรักใคร่กลมเกลียวกันดี ก็น่าจะส่อเค้าที่ดีว่า เค้าน่าจะเป็นคนรักครอบ-ครัว และให้ความสำคัญของครอบครัวนะ ว่าแต่ต้องตรองดูเหมือนกันนะว่า ครอบครัวไหนที่เค้ารักมากกว่ากัน เอ๊ะ จะเป็นครอบครัวเดิม หรือครอบครัวใหม่ที่คุณทั้งคู่กำลังจะเริ่มต้นด้วยกัน...ฮ้ะ
5. ความเลื่อมใสและศรัทธา พอจะไปกันได้ไหม?เชื่อไหมว่า แม้คนที่มีความแตกต่างกันสุดขั้ว แต่ถ้าเปิดใจกว้างและมีความเข้าใจซึ่งกันและกัน คู่รักคู่นั้น ก็สามารถครองรักกันได้ตลอดรอดฝั่งแน่นอน เหตุนี้ ถ้ายังมีอะไรที่เข้าใจไม่ตรงกัน ก็ควรคุยกันก่อนจะได้ไม่เสียใจทีหลัง
6. ชอบและไม่ชอบอะไรบ้าง?สถานที่ท่องเที่ยวแบบไหนที่คนที่คุณแอบรักชอบบ้างน้า? จะได้ดอดไปเที่ยวกันสองต่อสองไง หรืออาหารจานเด็ดประเภทใดที่เราชอบเหมือนๆกัน จะได้ หิ้วกันไปดื่ม ดริงก์ เจี๊ยะจ๊าบกันให้อร่อยเหาะสักที ถ้าชอบอะไรคล้ายกันมันก็ดีไปอย่าง เพราะจะได้ไปไหนมาไหนหรือมีกิจกรรมร่วมกันดีออกแต่ถ้ามีที่ชอบไม่เหมือนกัน ก็อย่าได้ถอดใจตีจากกันไปซะก่อน เพราะบางทีการเรียนรู้ในสิ่งที่ชอบต่างกันอาจส่งผลดีกว่าในแง่ที่จะได้เปิดโลกทัศน์ ใหม่ๆก็ได้นะ
7. งานอดิเรกชอบทำอะไร?เค้าชอบทำอะไรยามว่างบ้างล่ะ ดูหนังฟังเพลง หรือชอบไปเดินเล่นตามสวนสาธารณะ แล้วช็อปปิ้งไปด้วย หรือนิยมไปออกกำลังกายยืดเส้นยืดสายที่โรงยิมหรือฟิตเนส บางคนชอบไปเล่นตีแบด หรือหวดลูกสักหลาดก็ขึ้นอยู่กับความถนัด งานอดิเรกเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยบอกให้รู้ได้ว่า คุณกับเค้าจะไปกันได้ไหม?
8. ความต้องการทางร่างกายเค้ามีแรงขับทางเพศแบบนักรักบันลือโลก หรือแบบขันทีที่ไม่ค่อยอยากร่วมรัก (แต่เอ บางคนอาจมีอารมณ์เยอะ ทว่า ไม่ค่อยได้ออกกายบริหารก็ได้นะ) กันแน่? ซึ่งแรงสิเน่หาอยากร่วมรักนี่แหละเป็นสิ่งที่ควรนำมาพิจารณาชั่งใจกันให้ถี่ถ้วน เพราะถ้าเค้าเซ็กซ์จัดเหลือเกิน วันๆเอาแต่คิดถึงเรื่องหลีสาว แถมยังสะสมวีซีดีเอ็กซ์ไว้เพียบ ตรงข้าม คุณกลับเฉยๆชาๆกับความต้องการในด้านนี้ ขืนจับคู่กันระวังจะเกิดความ ไม่สมดุลทางเพศได้นะ หรือถ้าคุณเป็นจอมหื่น แต่เค้าไม่ชีกอแถมยังไม่ปึ๋งปั๋งปรู๊ดปร๊าด ก็ยากที่จะไปกันได้ดี เฮ้อ! มีรักทั้งทีก็กลับมีเรื่องเซ็กซ์มาขวางซะได้
9. การวางแผนครอบครัวก่อนไหม?เอ๊ะ ถ้าร่วมหัวจมท้ายกันไป เราจะรีบมีลูกหรือชะลอไว้ก่อน เมื่อไหร่ที่พร้อมในด้านทรัพย์สมบัติค่อยเลิกคุมกำเนิดก็ได้นี่ ของพรรค์นี้ถ้าคุยกันอย่างเปิดใจก่อนก็น่าจะดี ไม่ใช่ปล่อยให้เป็นไปตามยถากรรม เดี๋ยวเหอะ เดี๋ยวคงได้ทะเลาะกันจนต้องเลิกราไปตามกรรมใครกรรมมันหรอก
10. การสมรสถึงเวลาหรือยังที่ควรจะเป็นฝั่งเป็นฝาซะที แล้วคนที่คุณคบอยู่ตอนนี้เค้าเป็นคนที่ใช่แน่แล้วเหรอ? คุณมองเค้าแล้วเห็นอนาคตร่วมกันหรือเปล่า? ไม่ใช่ มองเห็นแต่ความว่างเปล่า หรือเต็มไปด้วยความไม่ พร้อมของทั้งคู่ ทั้งสองพร้อมจะรักและให้อภัยในความถูกมั่งผิดมั่งของกันและกันจริงนะ ถ้าในเมื่อยังมีสิทธิ์ที่จะเลือกได้อยู่ ก็ขอให้เลือกด้วยหัวใจและใช้สมองติ๊ดนึง ขืนเบื่อกันทีหลังล่ะน่าดูนะโว้ย.





http://blog.spu.ac.th/SPUcounsel/2008/09/08/entry-1

วันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2552

อย่ารักเพราะ...สงสาร



อย่ารักเพราะสงสาร ..... เขารู้คงทรมานใจ อย่ารักเพียงคิดว่าลองๆคบไป ..... แต่จงเชื่อใจในตัวเขา อย่ารักเพราะเพื่อนว่าดี ..... เพราะคนคนนี้อาจไม่ได้รักเรา แต่รักเพราะเธอรักเขาและมั่นใจจะก้าวไปด้วยกัน อย่ารักเพียงคิดว่าพอคบได้ ..... ถ้าเขาไม่ใช่คนที่เธอฝัน อย่ารักเพียงแค่ฆ่าเวลาไปวันๆ ..... เพราะเธอกำลังฆ่าคนๆ นั้นให้ค่อยๆ ตาย อย่ารักถ้าหัวใจเทอกำลังกล้ำกลืน ..... เพราะเธอไม่อาจฝืนให้รักมีความสุขได้ อย่ารักคนที่ผ่านมาแล้วผ่านไป ..... แต่จงรักคนที่เธอหยุดเขาได้ด้วยรัก อย่ารักและรีบจะผูกพันธ์ ..... ถ้าคนๆนั้นเธอพึ่งรู้จัก อย่าปล่อยใจให้รักใครง่ายๆนัก ..... จงดูใจกันสักพักก่อนจะเชื่อใจ อย่ารักใครหลายคน ..... เพราะไม่มีใครทนเป็นรองได้ แต่รักคนที่เธอพร้อมจะให้เขาทั้งหัวใจ และพร้อมจะเคียงข้างกันไปชั่วนิรันดร์

ซักวันคงเจอนะ..ความรัก


เราอาจจะหาความหมายของทุกสิ่งมาตลอดชีวิต
แล้ววันหนึ่งเราก็พบว่า เพียงแค่มีบางสิ่ง ชีวิตก็มีความหมายแล้ว.
มนุษย์เกิดขึ้นมาท่ามกลางความโดดเดี่ยว พร้อมด้วยหัวใจคนละ 1 ดวง
เมื่อมนุษย์ 2 คน มาพบกัน เราจึงเรียนรู้ว่า 1 + 1 อาจจะยัง คงเท่ากับ 1
แต่ความโดดเดี่ยวนั้นหายไป ที่เล็กๆ ขนาดไม่ใหญ่โตไปกว่ากำปั้น
ที่ทำให้เราอยู่รวมกันบนโลกใบนี้ อวัยวะที่สะกดด้วยอักษรง่ายๆ
ใช้แทนคำว่า "รัก" ได้เป็นอย่างดี
ความรัก ที่ประทับใจขอเก็บไว้ในใจแล้วอมยิ้มนะ
ความรัก ที่ไม่ประทับใจขอเก็บไว้เป็นประสบการณ์
ความรัก ที่ทำเพื่อผู้อื่นเป็นความภูมิใจแบบเก็บไว้เอง
ความรัก ที่ทำเพื่อตัวเองนั่นไม่เรียกว่ารัก
ความรัก ที่คุณเจอในอดีตขอให้เป็นความทรงจำที่แสนดี
ความรัก ที่คุณเจอในปัจจุบันขอให้สมหวังกันทุกคน
ความรัก ที่คุณจะเจอในอนาคตให้อธิษฐานกันเอาเองนะ
"ถ้าอ๊อกซิเจนทำชีวิตนี้ดำรงอยู่ได้ ความรักก็ทำให้การมีชีวิตนั้นมีความหมายมากยิ่งขึ้น"
เคยมั้ยที่จะมี คุณเคยมีคนแบบนี้ที่ไม่ใช่พ่อแม่พี่น้องหรือยัง?
ตอบตัวเองให้ได้ว่าใคร
เคยมั้ยที่จะมี...คนให้อภัยคุณทุกอย่าง.
เคยมั้ยที่จะมี...คนอยู่เคียงข้างคุณเวลาที่คุณเสียใจ
เคยมั้ยที่จะมี...คนจดจำความเป็นคุณได้ทุกอย่าง
เคยมั้ยที่จะมี...คนยอมเสียสิ่งที่รักเพื่อคุณ
เคยมั้ยที่จะมี...คนเห็นคุณสำคัญกว่าเพื่อน
เคยมั้ยที่จะมี...คนที่คุณอยู่ด้วยเฉย ๆ แล้วมีความสุข
เคยมั้ยที่จะมี...คนที่มั่นใจในคำว่ารักของคุณ
เคยมั้ยที่จะมี...ไม่อายเมื่อเดินข้างคุณ แม้คุณหน้าตาไม่ดีก็ตาม
เคยมั้ยที่จะมี...คนที่ทนคุณได้ไม่ว่า คุณจะด่า จะว่า เค้ายังไง
เคยมั้ยที่จะมี...คนรับได้ในสิ่งที่คุณเป็นไม่ว่าจะมีคนมาว่าร้ายคุณยังไง
เคยมั้ยที่จะมี...คนที่เห็นความผิดของคุณเป็นเรื่องน่ารัก
เคยมั้ยที่จะมี...คนที่คุณอยากตื่นมาแล้วก็เจอ
เคยมั้ยที่จะมี...คนที่คุณคิดถึงเค้า แม้ว่าคุณไม่เหงาก็ตาม
เคยมั้ยที่จะมี...คนที่คุณคิดถึงคนแรก เมื่อคุณทุกข์ใจ
เคยมั้ยที่จะมี...คนที่คุณรู้ว่า เค้าช่วยให้คุณสบายใจได้
เคยมั้ยที่จะมี...คนแคร์คุณมากมาย ไม่ว่าคุณจะทำร้ายเค้ายังไง
เคยมั้ยที่จะมี...คนที่รับรู้ตัวตนที่แท้จริงของคุณ
เคยมั้ยที่จะมี...คนที่ยังรักคุณแม้คุณไม่เห้นความสำคัญของเค้าเลย ถ้าคุณเคยมีเค้าคนนี้อยู่จริง คุณควรถนอมเค้าไว้ให้ดี ถ้าคุณสูญเสียเค้าไปคุณเองที่จะเป็นคนเสียใจ ความหมายของหัวใจ เราอาจจะหาความหมายของทุกสิ่งมาตลอดชีวิต แล้ววันหนึ่งเราก็พบว่า เพียงแค่มีบางสิ่งชีวิตก็มีความหมายแล้ว

เวลากับความรัก เวลาไม่ใช่เครื่องมือ

รัก...เวลา...
รักไม่ได้วัดที่..เวลา..
"รักไม่ได้วัดกันที่เวลา" คุณว่าจริงไหม?
"มาตรวัดความรักไม่ได้วัดกันตรงที่...ใครรักก่อน หรือ รักทีหลัง"
คนที่รักมานาน . . . อาจไม่ได้รักมากกว่า และ . . . คนที่รักทีหลัง . . . อาจไม่ได้รักน้อยกว่า เพราะความรัก ไม่ได้ขึ้นอยู่กับระยะเวลาเพียงอย่างเดียว
คนที่มาก่อน " รั ก ก่ อ น " วันคืนที่ผ่าน มามากมายอาจไม่มีค่าไม่มีความหมายเลย ถ้าหากเพียงแค่ ต้องรักไปวัน ๆ . . .
หรือ รักไปเหมือนกับทุก ๆ วันที่เคยรัก
รักอย่างเป็นหน้าที่ . . . หรือรักเพราะเคยรัก . . .
ในขณะเดียวกัน . . . กับวันคืนเพียง ไม่กี่วันของคนที่มาทีหลัง . . . ก็อาจมีค่ามาก เหลือเกิน ความรัก จึงไม่ได้สำคัญที่ว่ารักกันมานานแล้ว
หากแต่ความรักสำคัญตรงที่ เรา ใช้ทุกวันให้มีค่าให้เต็มไปด้วยความหมายแห่งรัก รัก แล้ว . . . ทำสิ่งดีๆ ให้กันด้วยความเต็มใจ และกระตือรือร้น
นั่นแหละจึงจะเรียกว่าความสำคัญของ " รั ก " ใครรักมาก หรือ รักน้อยจึงไม่ได้วัดกันที่ระยะเวลา และไม่อาจเชื่อ มั่นในคนที่มาก่อน . . . หรือ ไม่อาจดูถูกคนที่มาทีหลังว่าเขาไม่มีความสำคัญ
ความจริงแล้วคนที่มาที่หลังอาจสำคัญมากกว่าคนมาก่อนก็ ได้...
จริงๆ ต้องบอกว่า รักไม่ได้วัดกันที่เวลา...เสมอไป ความรักขึ้นอยู่กับคนสองคน ระยะเวลาเป็นเพียงปัจจัยหนึ่งที่ช่วยให้สองฝ่ายเรียนรู้ที่จะปรับตัวเข้าหา กันมากกว่า แต่ก็เห็นคนส่วนใหญ่ ใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ความรัก และเราก็เป็นคนหนึ่งที่ใช้ "เวลา" กับสิ่งนี้
เราคิดว่า " เวลา" น่าจะให้คำตอบที่ดีที่สุดกับเราได้

"หวง -ห่วง"

"หวง" คือ การทำให้ตัวคุณเองมีความสุข
"ห่วง" คือ การทำให้คนที่คุณรักมีความสุข

"หวง" คือ การผูกมัดคนที่คุณรักไว้ด้วยกาย
"ห่วง" คือ การผูกมัดคนที่คุณรักไว้ด้วยใจ

"หวง" คือ การเห็นแก่ตัว
"ห่วง" คือ การเสียสละ

"หวง" คือ การที่คุณให้เขาทำอะไรในกรอบของคุณ
"ห่วง" คือ การที่คุณให้เขาทำอะไรในกรอบของเขา

"หวง" คือ ประโยคคำสั่ง
"ห่วง" คือ ประโยคขอร้อง

"หวง" คือ คุณรักเขาและต้องการให้เขารักคุณ
"ห่วง" คือ คุณรักเขาแต่ไม่ต้องการให้เขารักคุณ

"หวง" คือ สิ่งที่คุณทำแล้วเกิดความทุกข์ใจ
"ห่วง" คือ สิ่งที่คุณทำแล้วเกิดความสุขใจ

"หวง" คือ การทำสิ่งที่ไร้สาระเพื่อให้เขาต้องอยู่กับคุณ
"ห่วง" คือ การทำสิ่งมีสาระที่ไม่ต้องการให้เขาอยู่กับคุณ

"หวง" คือ การออกไปเต้นแร้งเต้นกา
"ห่วง" คือ การอยู่เฉย ๆ นั่งมองเพียงเงียบ ๆ

"หวง" คือ การบังคับขู่เข็ญโดยเขาไม่เต็มใจ
"ห่วง" คือ การปล่อยให้เขาได้ทำในสิ่งที่เขาพอใจ

"หวง" คือ ความรักที่จอมปลอม
"ห่วง" คือ ความรักแท้จริง
- - - - - - - - - - - และ - - - - - - - - - - - - -
"หวง" คือ การที่คุณหลอกตัวเองว่าเขารักคุณ
"ห่วง" คือ การที่คุณหลอกตัวเองว่าเขาไม่รักคุณ....
และสุดท้าย - - -และท้ายสุด
"หวง" ไม่รู้ว่ามันคืออะไร
"ห่วง"
คือการที่ยอมเสียบางสิ่งบางอย่างไปเพื่อให้คน(ที่รัก- - -รักมาก))
ได้เจอได้บางสิ่งบางอย่างที่ดีกว่า

*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-

http://palmy.exteen.com/20051106/entry

วันพฤหัสบดีที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ชอบ รัก หลง แตกต่างกันอย่างไร


1. ชอบคำนี้ควรเอาไว้หน้าเครื่องหมายของความรักเพราะจะทำให้ความรักปลอดความขัดแย้ง มักจะมีความสุข และสมหวังเพราะ

1.1 ชอบ คือ รสนิยมตรงกัน นิสัยไปด้วยกันได้ เข้าใจกัน คุยกันถูกคอ เรียกว่าชอบพอกัน เช่น การคบเพื่อนเราก็ใช้ความรู้สึกนี้ เราจึงชอบเพื่อนรักเพื่อน มีความสุขพอใจ เมื่อได้อยู่กับเพื่อน แม้จะคบกันมาตั้งแต่วัยเรียน จนถึงทำงาน จนถึงแก่กว่า เพื่อนก็ไม่เคยหมดความหมาย เพราะมาจากรากฐาน ชอบ

1.2 ถ้าคำว่า ชอบ นำมาใช้กับคนที่รักของเรา ก็จะเพิ่มดีกรีดีกว่าเพื่อนขึ้นไปอีก เหตุนี้ควรพิสูจน์นิสัยใจคอ จนสามารถชอบเขาได้แล้วค่อยกลายเป็นความรักจึงจะถูกต้องอย่างที่ว่าจะรักใครควรจะชอบเขามาก่อน แล้วความรักจะยั่งยืน

1.3 แต่ ส่วนใหญ่ยังไม่ทันชอบเลย ไม่รู้เสียด้วยว่าลูกใครครอบครัวเขาเป็นอย่างไร รู้แต่ชื่อเล่น ชื่อจริง ส่วนนามสกุลเอาไว้บอกทีหลัง เราก็รักไว้ก่อน ชีวิตครอบครัวจึงไม่ประสบผลสำเร็จ ล้มเหลว วันหนึ่ง ๆ แต่งงานเป็นร้อยคู่ แต่ก็หย่ากันวันล่ะ 200 คู่ ขาดทุน 100% ขาดทุน 100% เพราะเรียงลำดับผิด

1.4 เพราะถ้าเอาความ รัก ขึ้นหน้าไว้อันดับหนึ่งก่อน ชอบมักจะมองข้ามความบกพร่อง ความไม่ดีทุกอย่างของคนที่เรารักไปอย่างที่ผู้ใหญ่บอกว่า ความรักทำ ให้คนตาบอด พ่อแม่ห้ามก็ไม่ฟัง

1.5 แต่ถ้า เอาชอบไว้ก่อนยังไม่รัก ถ้าคนรักเกิดพลิกล๊อค กลายเป็นไม่ดี เพราะไม่มีอะไรจะซ่อนเร้นมิดชิดและปกปิดได้นาน เท่ากับหัวใจคน เรารู้ก่อนที่จะรัก เราก็ตัดใจได้ไม่ยาก ชอบมาก่อน จึงเกิดผลดีอย่างน้อย 2 ประการ (1). ตัดใจได้ง่าย (2). ได้คนดี


2. คำว่า รัก มีความหมายลึกซึ้งมากกว่าที่คุณคิด คนส่วนใหญ่จึงไม่รู้ความหมายคำว่ารักอย่างแท้จริง เพราะไม่คิดถึงทั้งๆ ที่ตัวเองก็กำลัง ประพฤติอยู่

2.1 รัก มีความหมายถึงการอยากให้ ให้คนที่ตนรักมีความสุข แล้วตัวเองก็ต้องมีความสุขด้วย ทั้งที่ความสุขนั้นอาจจะไม่ใช่หมายถึงความสมหวังเสมอไป ในความรักไม่มีความกลัว เพราะความกลัวถูกจัดเข้ากับการลงโทษmแต่การเสียเขาไปต้องมีเหตุผลที่สมควรจาก 2 ฝ่ายด้วย ไม่ใช่เราคิดไปเองว่าเขาคงจะได้ดี แล้วก็ทิ้งเขาไป (เห็นได้จากในภาพยนตร์บ่อย ๆ) ซึ่งทำให้เราต้องสูญเสียโอกาสทั้ง 2 ฝ่าย กลายเป็นจบลงด้วยความเศร้าแทน

2.2 รัก ถ้าเราจะรักใครซักคน เราต้องคิดอยู่เสมอว่า เราจะให้อะไรกับเขา ไม่ใช่จะได้อะไรจากเขา ความรักนั้นก็อดทนนานและกระทำคุณให้ ความรักไม่อิจฉา ไม่อวดตัว ไม่หยิ่งผยอง ไม่หยาบคาย ไม่คิดเห็นแก่ตนเองฝ่ายเดียว ไม่ฉุนเฉียว ไม่ช่างจดจำความผิด ไม่ชื่นชมยินดีเมื่อมีการประพฤติผิด แต่ชื่นชมยินดีเมื่อประพฤติชอบ ความรักทนได้ทุกอย่างแม้ความผิดของคนอื่น และเชื่อในส่วนดีของเขาอยู่เสมอ และมีความหวังอยู่เสมอ และทนต่อทุกอย่าง

2.3 ในความรักไม่มีความกลัว เพราะถ้ามัวแต่กลัวจะเหมือนกับการโดนลงโทษ แล้วอาจจะ โดน ม.ค.ป.ด.


3. คำว่า หลง หลงกับรักมักจะแยกกันยากมาก เพราะอาการคล้าย ๆ กันทีแรกก็ปลูกต้นรัก แต่พอต้นรักเติบใหญ่ ทำไมออกดอกเป็นความหลง ความหลงจะสำแดงแตกต่างจากความรักสังเกตได้ 3 ประการ

3.1 เห็นแก่ตัว กอบโกยความสุขจากคนรักให้มากที่สุด เช่นขอพบ ขออยู่ใกล้ ให้คนรักปรนนิบัติเอาใจ เรียกร้องความสนใจตลอดเวลา เอาแต่ความสุขความพอใจตนเองเป็นใหญ่คนรักจะทุกข์ยากอย่างไรไม่สน ตัวเองจะยอมทุ่มเททุกอย่าง เช่น- ทรัพย์สินเงินทองปรนเปรอ - ถ้าไม่ได้ก็ใช่เล่ห์กล ไม่ได้ด้วยมนต์ก็เอาด้วยคาถา พวกหมอดูคนเจ้าเข้าทรง หมอผีร่ำรวยก็เพราะคนพวกนี้ ดูผิวเผิน เหมือนความรักสุดใจแต่ไม่ใช่ เพราะความรักเป็นความสุภาพ เสียสละ อ่อนโยน มีเหตุผล

3.2 ความหลงจะสังเกตได้ จะไม่มีลดน้อยหรือแม้แต่ตัว แต่จะร้อนแรงขึ้นเป็นลำดับ เหมือนถูกผีกระทำ จะไม่มีเหตุผล เกรี้วกราด รุนแรง เอาแต่ใจ เรื่องเล็กก็กลายเป็นเรื่องใหญ่

3.3 การหึงหวง อย่างรุนแรง ไร้เหตุผล แม้ตัวเองจะได้ตายก็ยอม เช่นฆ่าตัวตาย หรือ ฆ่าตัวตายทั้งคู่ ตามหนังสือพิมพ์ที่ออกข่าวบ่อย ๆ เช่นรักไม่สมหวัง หลายคนเห็นใจที่เขาบูชารัก แต่นั่นคือการเข้าใจผิด มันไม่ใช่ความรัก เพราะความรัก คือความอ่อนโยน มีเหตุผล ไม่กระทำผิด แต่ความหลงกระทำให้เรา คิดสั้น หลงผิด ถูกครอบงำด้วยอำนาจที่แฝงแปลงร่างมาคล้ายกับความรักแท้


วันพุธที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2552

นิยาม.. รักแท้

วัยและประสบการณ์ทำให้คนมีนิยามของ "รักแท้" แตกต่างกันไป บางคนก็ว่ารักแท้ไม่เคยอาศัยอยู่บนโลกมนุษย์ บางคนก็ว่ารักแท้คือรักที่กำลังรักอยู่ยามนี้ บางคนก็ว่ารักแท้หาเอาได้ตามเตียงทุกเตียง แต่มีนักจิตวิทยาได้ให้องค์ประกอบของรักแท้ สำหรับให้คนพิสูจน์ความรักหนนั้นของตนว่า มันเป็นรักแท้ขนานแท้รักแท้แบบปลอมปนหรือท้รักที่ปลอมสนิท
----1. ต้องมีความรู้สึกได้สัมผัสกับความสุขร่วมกับคนๆ นั้น เมื่ออยู่ด้วยกันก็จะมีความสุขมาก ไม่เคยเบื่อที่มีเขาอยู่ใกล้ๆ และเมื่อยามที่เขาห่างไกลไม่ได้เห็นหน้า ก็จะรู้สึกเหงาๆ และคิดถึง ไม่ใช่พอเขาหันหลังให้ ยังเห็นชายเสื้อแว้บๆ ก็แทบจะตีปีกโลดเต้นดีใจ
----2. ต้องให้ความเคารพนับถือคนๆ นั้น ถ้าจะรักใครสักคน แล้วตั้งหน้าดูถูกไม่เคยให้ความเคารพใครอื่นจะเคารพคนๆ นั้นของเรา และการที่ได้รักใคร่กับคนที่ใครๆเขาดูถูก มันจะเหลือความภูมิใจใน คนๆ นั้นสำหรับเราได้ยังไง
----3. ต้องรู้สึกว่าคนๆ นั้นเป็นที่พึ่งได้ เมื่อเกิดวิกฤตการณ์ขึ้นในชีวิต ก็มั่นใจว่าเขาจะอยู่เคียงข้างเพื่อคอยช่วยเหลือ ไม่ใช่ว่าเรากำลังจะตกตึกอยู่รอมร่อ ก็ไม่ยื่นมือเข้ามาช่วยฉุด
----4. ต้องเชื่อมั่นว่าถ้ามีปัญหาใดๆเกิดขึ้น ไม่ว่าจะรุนแรงแค่ไหน สัมพันธภาพก็ยังคงดำเนินต่อไปเพราะคนเราย่อมผิดพลาดกันได้ ถ้ารู้จักอภัยกันมันก็อยู่กันทน ไม่ใช่ผิดหนเดียวก็ถีบส่ง
----5. ต้องเข้าถึงความต้องการ อารมณ์ และความรู้สึกของคนๆ นั้น อย่างถ้ารู้ว่าชอบจะอยู่คนเดียวตามลำพังบ้าง ก็ควรเปิดโอกาสได้อยู่กับตัวเองด้วยความเต็มใจ ไม่ใช่เปิดโอกาอย่างกระเง้ากระงอด
----6. ต้องมีความรู้สึกต้องตาต้องใจในสรีระของคนๆ นั้น ไม่ว่าจะต้องเสน่ห์ในความเป็นหญิงกำยำ หรือในความล้านจนขึ้นเงาวับบนหัวเขา มันก็มีส่วนในความรักเหมือนกัน
----7. ต้องรู้สึกว่าเราสามารถจะพูดคุยกับคนๆ นั้นได้ทุกเรื่องอย่างเปิดอก สามารถที่จะขุดความรู้สึกส่วนลึกในหัวใจขึ้นมาพูดได้ ไม่ใช่ต้องปิดบังความรู้สึกส่วนนั้นไว้ เพราะกลัวว่าถ้าพูดออกมาแล้ว เราจะอับอาย หรือไม่ก็กลัวว่าเขาได้ยินแล้วจะผงะหงายแล้วเดินหายไปจากชีวิต
----8. ต้องรู้สึกว่าคนๆ นั้นเป็นของมีค่าในมือ ถ้าไม่มีเขาสักคนชีวิตของเราก็สูญของมีค่าไป
----9. ต้องรู้สึกเต็มใจที่มีส่วนร่วมกับคนๆ นั้นในหลายๆ ด้าน เป็นต้นว่า ความคิด อารมณ์และเวลาแต่ไม่ใช่ร่วมกับเขาไปหมด จนเขาไม่เหลือความเป็นตัวของตัวเอง
----10. ต้องรู้สึกอยากมีส่วนร่วมอยากรับฟังทุกอย่าง ไม่ว่าสิ่งนั้นมันเป็นสิ่งที่ดี หรือเป็นสิ่งที่ทุกข์ ที่เรียกว่า ร่วมทุกข์ร่วมสุข เพราะคนที่ต้องการแต่จะร่วมสุข นั่นหมายถึงว่าคุณไม่ได้มีรักแท้กับคนๆ นั้น ถ้ามีครบทุกข้อดังที่กล่าวมา ให้ถือว่ากำลังมีรักแท้โดยสมบูรณ์ แต่ถ้าขาดไปสักข้อสองข้อ ก็ให้โมเมว่ายังเป็นรักแท้อยู่ แต่ถ้ามีเพียงหนึ่งหรือสองข้อในจำนวนทั้งหมดที่กล่าวมา ก็จงอย่าพยายามหลอกตัวเองว่ารักนี้เป็นรักแท้ เพราะไม่เช่นนั้นทั้งสิบคนที่คบอยู่จะเป็นรักแท้ไปหมด แล้วความรักของคุณขณะนี้ล่ะเป็นรักแท้แบบไหน....


http://www.narak.com/reallife/article/article25.shtml

"นิยามรัก" เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์


... บางครั้ง "ความรัก"ก็เดินเข้ามาหาเรา เพื่อให้เราเรียนรู้ มิใช่เพื่อให้เราครอบครอง
... ไม่ผิด หากจะรักคนมีเจ้าของ แต่จะผิด หากเข้าไปทำหน้าที่ซ้ำซ้อนกับคนอีกคน
... หน้าที่ของ "ความรัก" คือการเดินไปรับ และยืนเฉยๆ เพื่อรับมัน ไม่ใช่ดิ้นรนเพื่อให้ได้มา
... ในห้วงรัก การถูกรัก มันสุขใจ การมอบความรัก มันอิ่มเอม และเมื่อได้รับการปฏิเสธ มันทรมาณ
... "ความรัก" จะเกิดขึ้น เมื่อเกิดการถ่ายเทพลังงานอันอ่อนโยนของคนสองคน
... คนบางคน เหมาะที่จะเกิดมาเพื่อให้เรารัก แต่ไม่เหมาะที่จะร่วมชีวิตด้วย
... "ความรัก"ระยะแรกทำให้ร่างกายหลั่งสารกระตือรือร้น ทำให้มนุษย์ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่ง"ความรัก"
... แฟน ก็คือ เพื่อนคู่คิด ที่จะก้าวไปด้วยกันในวันข้างหน้า
... ในวันที่ "ความรัก"คงที่ สารกระชุ่มกระชวยงดทำงาน สิ่งเดียวที่จะทำให้อยู่ด้วยกันได้ตลอดไป คือ "ความเข้าใจ" ล้วนๆ
... ความห่างไกล มันทรมาน เวลาเจอกันจึงหอมหวาน และเป็นความทรงจำที่เก็บไปนั่งเพ้อฝันได้ในวันจาก
... บุคคลไม่พึงประสงค์สำหรับทุกคู่รัก มันจะเดินทางเข้ามาโดยไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
... ผู้ชาย แสดง "ความรัก" ด้วยการกระทำ ขณะที่ผู้หญิง อยากรู้ว่า "รัก" จากคำพูด


"ความรัก" ไม่ต้องการ แค่วันเดียว
"ความรัก" ไม่ต้องเกี่ยว กับวันไหน
"ความรัก" ไม่ต้องมี เวลาใด
"ความรัก" ไม่ต้องใช้ ให้ใครชี้
"ความรัก"ไม่ต้องมี ข้อวิจารณ์
"ความรัก" ไม่ต้องการ การกดขี่
"ความรัก" ไม่ต้องให้ ใครตราตี
"ความรัก" ไม่ต้องมี เส้นพรมแดน
"ความรัก" ไม่ต้องรอ ข้อพิสูจน์
"ความรัก" ไม่ต้องพูด ตามแบบแผน
"ความรัก" ไม่ต้องการ การตอบแทน
"ความรัก"ไม่ต้องแค่ หัวใจคน
"ความรัก"ไม่ต้องการ การเป็นต่อ
"ความรัก" ไม่ต้องรอ ขอเหตุผล
"ความรัก" ไม่ต้องย้ำ ความมีจน
"ความรัก"ไม่ต้องทน ที่จะรัก


นิยามความรัก ช่วงวาเลนไทน์ (ไทยรัฐ)

----------เห็นวัยรุ่นตอนต้น - ตอนปลาย จนถึงวัยผู้ใหญ่และวัยดึก ดุกดิกดี๋ด๋ากันเหลือเกินในช่วงนี้ สงสัยเพราะใกล้วันแห่งความรักล่ะซี ถึงได้เหี้ยนกระหือรือกันนัก แถมตามร้านค้ารวมทั้งห้างสรรพสินค้าก็วางขายสินค้าที่เกี่ยวกับการบอกรัก ความหมายของรักและแสดงความเลิฟขายกันอื้อซ่า แสดงว่าความชอบ ความรัก และความใคร่ เอ้ย...ความปรารถนาอยากได้รับความโรแมนติกจาก “คนเลิฟ” นั้นไม่เคยล้าสมัย แต่กลับอยู่ในใจของ "ผู้อยากให้รักที่มีนั้นดีซำเหมอ"
----------อีกอย่างคงมีน้อยคนนักที่ประสงค์จะ "รักแล้วรอหน่อย" เนอะ เอ้า... ถ้ารักแล้วจะเก็บเอาไว้คนเดียวทำไม? วัยรุ่นใจร้อนน่ะมีแต่อยากบอกให้อีกคน (ที่ไปปิ๊งด้วย) รู้ว่า รักเค้าเข้าแล้วทั้งนั้นแหละ...ถ้าขืนไม่พูดก็คงอึดอัดอยู่แต่ในใจเดี๋ยวได้อกแตกตายกันพอดี งั้นมามะ บอกให้รู้แล้วรู้แรดไปละกัน ถ้าเผื่อเค้าไม่เลือกเรา จะได้รู้ตัว...หนีไปตั้งหลักแล้วค่อยเสาะหารักใหม่ยังดีซะกว่า
----------ส่วนใครที่ "รักแล้วอยากรอ" เพราะลังเล ไม่มั่นใจ และกลัวเก้อ จึงคิดมากคิดมายว่าควรชวนคนที่ตัวหมายปองมารักกันดีไหม? ก็ตัดสินใจซะ รู้น่าว่า...บางที การบอกรักของบางคน (ที่รอบคอบ) ต้องใช้เวลาศึกษากันให้ลึกซึ้ง...ขืนไปเจอ "พวกหน้าตาดีแต่ชอบพูดเอื้อยเจื้อย, พูดไปงั้น, พูดให้อีกคนเกิดความหวังลมๆ แล้งๆ" แถม ไม่เคยทำตามสัญญาที่พูดไว้ต่อกัน ก็แย่ดิ่ ถ้ารูปการณ์เป็นงี้ก็ยากนักที่จะรักกันได้! ใครบ้างว่ะ ชอบคนพูดแล้วไม่ทำตามสัญญา? เช่น บอกกะเราว่า จะพาไปเที่ยวนะ...แต่เค้าไม่เคยทำได้อย่างที่พูด เออ.....เป็นงี้คุณจะผิดหวังมะ? ก็ต้องผิดหวังดิ่ เพราะนึกว่า "มีใจให้แก่กัน" ก็ควรทำตัวเป็นคนไม่ลืมในสิ่งที่เค้าพูดไว้ดิ่
---------ดังนั้น ขอเตือนนะฮ้า ถ้าไม่มั่นใจว่าจะทำได้ ตามที่พูดก็อย่าพูดละกัน เกลียดนักพวกเก่งแต่ปากเนี่ย ทำให้เสียเวลา ถ้าแค่ "เสียใจ" ยังไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าเสียเวลามันร้ายแรงกว่ากันนะเฟ้ย
---------แหมเกริ่นมาซะยืดยาว ความจริงอยากฝอยถึงความหมายของความรักนั่นเอง เพราะเท่าที่สำรวจมาพบว่า มนุษย์สามารถให้นิยามคำว่ารักได้ต่างๆ นานา ดังนี้...
--------1. รักคือความเข้าใจ รักคือยอมอภัยทุกอย่าง อภัยให้กัน...โอ้โห คนที่ให้นิยามหยั่งงี้แสดงว่า เป็นแม่พระ หรือไม่ก็พ่อพระตัวจริงแฮะ
--------2. รักคือเธอกับฉัน เป็นเรื่องของคน 2 คน ซึ่งบุคคลภายนอกหากมองไปที่คนคู่นี้ ก็ยากที่จะเก็ต (เข้าใจ) นั่นแหละรัก...โธ่ อยากบอกว่า รักเป็นเรื่องส่วนตัวของคนคู่นึงก็บอกมาเหอะ!
--------3. รักคือสีชมพูเวลาอยู่ใกล้ๆ เธอแล้วใจ (ฉัน) มันเต้นตึกตักๆๆ เป็นจังหวะรุมบ้า, ชะชะช่า และแทงโก้ผสมปนเปกันจนวุ่น และฉันรู้ว่าการเต้นของหัวใจคราวนี้ ไม่ใช่จังหวะปกติแน่นอน....ขอยืนยัน จะนอนยันด้วยก็ได้ ไม่ว่าไร 555
--------4. รักทำให้มนุษย์เสียสมาธิ, ขาดความเชื่อมั่น และขลาดกลัว แต่ในทางกลับกันสิ่งที่ตามมาหลังจากรักไปแล้วกลับดียิ่งกว่า กล่าวคือ มีอีกคนเข้ามาทดแทนและช่วยเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไปจากชีวิตของฝ่ายที่มีรัก ดังนั้น ความกล้าและความมั่นใจจึงกลับคืนสู่คนนั้นอย่างมีเหตุมีผล จนคุณตระหนักว่า ชีวิตของคุณไม่ใช่เรื่องบ้าบอคอแตกและไร้สาระอีกต่อไป นั่นแหละที่เรียกกันว่า “อินเลิฟ” ล่ะ
--------5. ไม่รู้หรอกว่า รักคืออะไร? รู้แต่ว่า รักไม่เคยเปลี่ยนแปลงละกัน อุ้ย จะบอกว่า รักยืนยงคงกระพันสินะ.....ขอให้จริง ขอให้จริง เพี้ยง!
--------6. รักคือการเรียนรู้ของคน 2 คน ถ้าเค้าพร้อม เราก็พร้อม...โอ้ลั่นล่า
--------7. รักคือแสงสว่างของชีวิต เมื่อฉันและเธอเคียงคู่อยู่ด้วยกันตลอดไป โอมมะรึกกึกกึ๋ย ขอให้รักนี้ไม่ใช่ฝันกลางวัน หรือฝันเลื่อนลอยทีเถิ้ด
--------8. รักคือการเป็นคนรักที่ดีให้กับ "คนที่เรารัก"....แต่อะไรที่พลั้งเผลอทำไม่ดีไปนิดหน่อย ก็ขอให้ดาร์ลิ่งช่วยอภัยให้ด้วยนะคนดี....มีงี้ด้วย?
--------9. รักคือไม่เคยหวั่นไหวไม่เจ้าชู้ แต่ขอหยุดที่เธอเพียงคนเดียว ก็มีสุขแล้ว
--------10. ความรักไม่ใช่การคิดแต่จะเอาชนะคะคานกัน ความรักไม่ใช่ความเห็นแก่ตัว, ไม่ใช่เกลียด "ในสิ่งที่เค้าเป็น" ตรงกันข้าม เราควรรักในสิ่งที่เค้าเป็น และอย่าไปเปลี่ยนแปลงตัวตนของเค้าให้เป็น "คนในแบบที่เราต้องการ" ต่างหากล่ะ....ล้ำลึกและหนักแน่นจ้ะ
--------11. รักคือวิกฤติของชีวิตที่ทำให้เรามารักกันไม่ทันไร ก็ต้องจากกันซะและ! แต่ยังไม่ได้บอกซะหน่อยนะ ว่าคู่นี้เค้าจากกันเพราะอะไร? อย่าเพิ่งตีโพยตีพายว่า คู่นี้สงสัยจากกันไม่ดีแหงเลยไปซะก่อน เพราะคนรักกันเห็นจากกันทั้งๆ ที่ยังเลิฟก็ถมเถไป
--------12. ความรักทำให้เราอยากมีเวลาส่วนตัว เพื่อที่จะได้อยู่กับคนที่เรารัก...หวานซ้า
--------13. ความรักมีอยู่กระจัดกระจาย ถ้าคุณไม่ปิดตาปิดหูปิดจมูกของตัวเองซะอย่าง คุณก็จะเจอความรักสักวันแน่ๆ
--------14. เชื่อว่าความรักเกิดขึ้นอย่างไม่มีเหตุผล ดังนั้น หากจะรักก็รักไปเลย ไม่คำนึงถึงเหตุผลหรืออะไรทั้งสิ้น ขออย่างเดียว ถ้ารักก็ช่วยบอกกันหรือแสดงออกให้รู้ ไม่ใช่ทำเป็นอ้ำๆ อึ้งๆ หรือปล่อยให้อีกฝ่ายเก็บไปคิดเอง, ตีความเอาเองแล้วจะดีหรือจ๊ะ? ข้อนี้เป็นไอเดียของน้องนุ่น กรุงเทพชวนให้ไปคิดต่อ หรือชวนสยองก็ไม่รู้ดิ่ อิอิ
--------15. รักคือความเป็นมิตรบวกด้วยความเข้าใจอันดี ผสมกับการไม่ระแวงกัน อย่างไร้สติ รวมทั้งไม่ "หูเบา" ฟังใครเค้าพูดถึงแฟนเราไม่ดีอย่างโง้นอย่างงี้ก็อย่าปักใจเชื่อ....โอ้ มายเดียร์ เธอต้องหัดใส่ตุ้มหูไว้ซะมั่งแล้วล่ะ สุดท้าย หากรักกันจริงก็อย่าหลอกให้หลงนะฮ้า

http://www.zazana.com/Article/id3813.aspx