ตะละแม่วีนัส
นั่นสิ หากเรารักใครสักคน เราต้องยอมเสียสละทุกอย่างด้วยหรือ ชีวิตคู่ที่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดต้องเสียสละอยู่ข้างเดียวจะพบความสุขแท้จริงได้อย่างไร การประนีประนอมจึงเป็นหนทางที่ดีที่สุด เพื่อประคองความรักให้อยู่รอดปลอดภัย
เรื่องสำคัญที่ควรหาทางประนีประนอม
งาน
ส่วนใหญ่ผู้หญิงมักต้องเป็นฝ่ายละทิ้งหน้าที่การงาน แม้จะรักงานนั้นแค่ไหนก็ยังยอม เพราะผู้ชายมักเป็นฝ่ายมีรายได้สูงกว่าผู้หญิง จึงเป็นรายได้หลักของครอบครัว คนทั้งบ้านต้องพึ่งพาว่างั้นเถอะ ดังนั้นหากเกิดกรณีต้องย้ายไปรับตำแหน่งงานที่สูงขึ้น รายได้ดีกว่าเดิม ฝ่ายหญิงจึงมักต้องลาออกละทิ้งงานของตัวเอง เพื่อติดตามคนรัก ถ้าไม่ลาออกมาอยู่บ้านเฉยๆก็ต้องหางานใหม่ที่ไม่สบอารมณ์เท่าไรนัก การต้องทนทำงานที่ใจไม่รัก ย่อมไม่มีความสุข นับวันมีแต่จะเหี่ยวเฉาลงทุกที คำถามคือ เราต้องยอมละทิ้งความก้าวหน้าในชีวิตเพื่อให้ได้อยู่เคียงข้างเขาอย่างนั้นหรือ แทนที่จะแก้ปัญหาง่ายๆแบบนั้น น่าจะลองคิดหาวิธีประนีประนอมพบกันครึ่งทางดีกว่า
ลูก
มีผู้หญิงมากมายที่ยอมละทิ้งความฝันที่อยากมีลูก เพียงเพราะอีกฝ่ายไม่ต้องการให้เด็กมาวิ่งยั้วเยี้ยเต็มบ้าน คู่ที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งปฏิเสธการมีลูก มักสร้างความขุ่นเคืองให้ก่อเกิดขึ้นในใจ ฝ่ายที่ผิดหวังถูกปฏิเสธจะเก็บกดความหงุดหงิดไว้ในเบื้องลึก และจะกลายเป็นเงื่อนไขสำคัญอันหนึ่งที่ทำให้ชีวิตคู่พังพินาศวอดวาย ผู้หญิงบางคนขมขื่นสูญเสียมหาศาลเสียจนรู้สึกว่าชีวิตทั้งชีวิตถูกทำลายไม่เหลือชิ้นดี เรื่องแบบนี้ประนีประนอมกันได้ยาก ทางที่ดีควรจับเข่าพูดคุยตกลงกันเสียเนิ่นๆตั้งแต่ยังหวานชื่นกันใหม่ๆ คุยเปิดใจกันอย่างตรงไปตรงมาถึงความรู้สึก ความตั้งใจ และเรื่องสำคัญในชีวิตตามลำดับก่อนหลัง เพื่อไม่ให้เสียเวลาของกันและกัน
ความเป็นส่วนตัว
ความเป็นส่วนตัวคือสิ่งที่ทุกคนปรารถนา อาชีพการงานที่ยุ่งยากวุ่นวายในปัจจุบันทำให้ทุกคนคิดว่า ความเป็นส่วนตัวคือสิ่งพิเศษที่ยากเกินไขว่คว้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่มีพันธะยิ่งหมดสิทธิ์พูดถึงความเป็นส่วนตัวกันเลย ความจริงการที่เรามีชีวิตคู่ไม่ได้หมายความว่าเราจะหาความเป็นส่วนตัวไม่ได้ ความเชื่อเก่าๆคือ คนเป้นพ่อเป็นแม่จะมีเวลาเป็นส่วนตัวได้ก็ตอนลูกไม่อยู่บ้านเท่านั้น ซึ่งความจริงเราสามารถสร้างความเป็นส่วนตัวให้ตัวเองได้ถ้าอยากจะทำ เช่น ทำห้องนอนเป็นอาณาจักรส่วนตัว หรือใช้ห้องอื่นในบ้านก็ได้ อยู่ตามลำพังวันละสองชั่วโมง ห้ามใครรบกวนโดยเด็ดขาด หรือไม่ก็ขอใช้บ้านเพื่อนสักวันละสองชั่วโมงเวลาเพื่อนไม่อยู่บ้าน หรือออกไปนอกบ้านอาทิตย์ละครั้ง นั่งร้านอาหารหรืออ่านหนังสือในร้านกาแฟคนเดียว หาทางปลีกวิเวกเป็นประจำแบบนี้จะช่วยได้เยอะเชียวละ
วิธีหลีกเลี่ยงการสิ้นเปลืองชีวิตไปกับคนอื่น
อย่าปล่อยให้ความหลงครอบงำตั้งแต่เริ่มต้น
ข้อนี้ง่ายมากคือ อย่าอือออตกลงหรือยอมรับในเรื่องที่เราไม่ได้เห็นด้วยจริงๆ นอกเสียจากว่ากำลังตกอยู่ในอาการหน้ามืดตามัวขนาดหนัก บางครั้งอารมณ์พาไปในขณะนั้น เขาชี้นกแล้วบอกว่าหมา เรายังอือออห่อหมกเห็นด้วยหน้าตาเฉย พอมาตอนหลังอยากเขกหัวตัวเองจริงจริ๊งว่าทำไมใจง่ายจัง กฎง่ายๆคือ ควรมองคนที่จุดมุ่งหมายและการใช้ชีวิต เลือกคนที่มีความฝันหรือความหวังในชีวิตที่เข้ากับเราได้เป๊ะๆ หรือเลือกคนที่เชื่อในความฝันของเราและต้องการมีส่วนช่วยให้ฝันนั้นเป็นจริง
อย่าทำอะไรให้ใครถ้าเราไม่หวังให้เขาตอบแทน
เวลาเราทำทุกอย่างให้คนรักด้วยความรักสุดหัวใจ ลองหยุดคิดแล้วถามตัวเองสิว่า เขาจะทำแบบนี้ให้เราบ้างหรือเปล่า เขาขอร้องไม่ให้เราเที่ยวสำมะเลเทเมา แล้วเขาทำได้หรือเปล่า สัมพันธ์รักแบบนี้มีความเท่าเทียมกันไหม ยุติธรรมพอหรือเปล่า เราเคยขอร้องให้เขาทำในสิ่งที่เราเองยังทำให้เขาไม่ได้บ้างไหม มีตัวอย่างให้เห็นง่ายๆ เช่น ผู้หญิงมากมายที่ยอมละทิ้งหน้าที่การงานและสังคมนอกบ้าน เพราะสามีขอร้องให้อยู่เลี้ยงลูกดูแลบ้าน แต่ตัวสามีก็ยังแร่ดๆอยู่นอกบ้านเหมือนเดิม ไม่ได้รีบกลับบ้านมาอยู่กับลูกเมียให้มากขึ้น สิบห้าปีผ่านไป ภรรยายังงมโข่งดักดานอยู่กับบ้าน ส่วนสามีก็ดอดไปมีอีหนูในที่ทำงาน นี่คือตัวอย่างของความเหลื่อมล้ำอย่างเห็นได้ชัด เพราะฉะนั้นควรตกลงประนีประนอมกันให้ดี ให้ยุติธรรมและไม่มีฝ่ายใดเสียเปรียบหรือได้เปรียบจนเกินไป
อย่าผัดผ่อนเรื่องใดๆนานเกินสองปี
ไม่ควรมีเรื่องใดในชีวิตที่ต้องรอคอยนานเกินสองปี หากดูท่าไม่ดี เราสามารถยื่นคำขาดได้ทันที โดยการเรียกร้องสิทธิ์ที่เราควรได้ หรือในกรณีที่เราต้องเป็นฝ่ายเสียสละครั้งแล้วครั้งเล่า ยอมทิ้งโอกาสดีๆในชีวิตเพื่อให้เขาได้สิ่งที่ต้องการ แม้จะมีภาษิตว่าความรักคือการเสียสละ แต่ถ้าเราต้องเสียสละอยู่ฝ่ายเดียวเป็นเวลานานนับปีโดยที่เขาไม่เคยเป็นฝ่ายตอบแทนเราเลย เอาแต่เรียกร้องอยู่ตลอดเวลา นั่นแสดงว่าเขาไม่ได้รักเรามากเท่าที่เรารักเขา ถ้ายังอยากใช้ชีวิตเคียงข้างเขาต่อไป เราก็ต้องเป็นฝ่ายเสียสละตลอดชีวิตจนกระทั่งวันตายนั่นแหละ
ถามตัวเองสิว่า นี่คือชีวิตที่ต้องการหรือ
จำเอาไว้ว่า แม้เราจะมีคนรักมากมายสักเพียงใด มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถปั้นแต่งชีวิตเราให้ออกมาในรูปใดก็ได้ คนๆนั้นก็คือตัวเรานี่แหละ เมื่อถึงเวลาต้องหันหน้ารอมชอมกัน เราควรเอาความหวังความฝันและความสามารถทั้งมวลของเราเป็นที่ตั้ง ความรักคือการเสียสละก็จริง แต่ความรักชั่วนิรันดร์นั้นต้องมีความยุติธรรมและเสมอภาค ดังนั้นเราสามารถพลิกชีวิตเปลี่ยนคนรักได้หากความสัมพันธ์นี้ไม่เวิร์ค ไม่ต้องเสียใจที่เลิกรากัน ออกเดินหน้าหาคนที่เขายอมเราและเรายอมเขาในอัตราส่วนเท่าๆกัน ไม่ต้องมีใครเป็นฝ่ายยอมอยู่ข้างเดียว หมดสมัยแม่พระที่ยอมบูชายันตัวเองเพื่อคนที่รัก ชีวิตคู่คือการรอมชอมถนอมน้ำใจกัน เพื่อให้ความรักอยู่รอดปลอดภัยตราบนานเท่านาน
http://blog.hunsa.com/007hotnews/blog/26771
วันอาทิตย์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2552
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น