----------เห็นวัยรุ่นตอนต้น - ตอนปลาย จนถึงวัยผู้ใหญ่และวัยดึก ดุกดิกดี๋ด๋ากันเหลือเกินในช่วงนี้ สงสัยเพราะใกล้วันแห่งความรักล่ะซี ถึงได้เหี้ยนกระหือรือกันนัก แถมตามร้านค้ารวมทั้งห้างสรรพสินค้าก็วางขายสินค้าที่เกี่ยวกับการบอกรัก ความหมายของรักและแสดงความเลิฟขายกันอื้อซ่า แสดงว่าความชอบ ความรัก และความใคร่ เอ้ย...ความปรารถนาอยากได้รับความโรแมนติกจาก “คนเลิฟ” นั้นไม่เคยล้าสมัย แต่กลับอยู่ในใจของ "ผู้อยากให้รักที่มีนั้นดีซำเหมอ"
----------อีกอย่างคงมีน้อยคนนักที่ประสงค์จะ "รักแล้วรอหน่อย" เนอะ เอ้า... ถ้ารักแล้วจะเก็บเอาไว้คนเดียวทำไม? วัยรุ่นใจร้อนน่ะมีแต่อยากบอกให้อีกคน (ที่ไปปิ๊งด้วย) รู้ว่า รักเค้าเข้าแล้วทั้งนั้นแหละ...ถ้าขืนไม่พูดก็คงอึดอัดอยู่แต่ในใจเดี๋ยวได้อกแตกตายกันพอดี งั้นมามะ บอกให้รู้แล้วรู้แรดไปละกัน ถ้าเผื่อเค้าไม่เลือกเรา จะได้รู้ตัว...หนีไปตั้งหลักแล้วค่อยเสาะหารักใหม่ยังดีซะกว่า
----------ส่วนใครที่ "รักแล้วอยากรอ" เพราะลังเล ไม่มั่นใจ และกลัวเก้อ จึงคิดมากคิดมายว่าควรชวนคนที่ตัวหมายปองมารักกันดีไหม? ก็ตัดสินใจซะ รู้น่าว่า...บางที การบอกรักของบางคน (ที่รอบคอบ) ต้องใช้เวลาศึกษากันให้ลึกซึ้ง...ขืนไปเจอ "พวกหน้าตาดีแต่ชอบพูดเอื้อยเจื้อย, พูดไปงั้น, พูดให้อีกคนเกิดความหวังลมๆ แล้งๆ" แถม ไม่เคยทำตามสัญญาที่พูดไว้ต่อกัน ก็แย่ดิ่ ถ้ารูปการณ์เป็นงี้ก็ยากนักที่จะรักกันได้! ใครบ้างว่ะ ชอบคนพูดแล้วไม่ทำตามสัญญา? เช่น บอกกะเราว่า จะพาไปเที่ยวนะ...แต่เค้าไม่เคยทำได้อย่างที่พูด เออ.....เป็นงี้คุณจะผิดหวังมะ? ก็ต้องผิดหวังดิ่ เพราะนึกว่า "มีใจให้แก่กัน" ก็ควรทำตัวเป็นคนไม่ลืมในสิ่งที่เค้าพูดไว้ดิ่
---------ดังนั้น ขอเตือนนะฮ้า ถ้าไม่มั่นใจว่าจะทำได้ ตามที่พูดก็อย่าพูดละกัน เกลียดนักพวกเก่งแต่ปากเนี่ย ทำให้เสียเวลา ถ้าแค่ "เสียใจ" ยังไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าเสียเวลามันร้ายแรงกว่ากันนะเฟ้ย
---------แหมเกริ่นมาซะยืดยาว ความจริงอยากฝอยถึงความหมายของความรักนั่นเอง เพราะเท่าที่สำรวจมาพบว่า มนุษย์สามารถให้นิยามคำว่ารักได้ต่างๆ นานา ดังนี้...
--------1. รักคือความเข้าใจ รักคือยอมอภัยทุกอย่าง อภัยให้กัน...โอ้โห คนที่ให้นิยามหยั่งงี้แสดงว่า เป็นแม่พระ หรือไม่ก็พ่อพระตัวจริงแฮะ
--------2. รักคือเธอกับฉัน เป็นเรื่องของคน 2 คน ซึ่งบุคคลภายนอกหากมองไปที่คนคู่นี้ ก็ยากที่จะเก็ต (เข้าใจ) นั่นแหละรัก...โธ่ อยากบอกว่า รักเป็นเรื่องส่วนตัวของคนคู่นึงก็บอกมาเหอะ!
--------3. รักคือสีชมพูเวลาอยู่ใกล้ๆ เธอแล้วใจ (ฉัน) มันเต้นตึกตักๆๆ เป็นจังหวะรุมบ้า, ชะชะช่า และแทงโก้ผสมปนเปกันจนวุ่น และฉันรู้ว่าการเต้นของหัวใจคราวนี้ ไม่ใช่จังหวะปกติแน่นอน....ขอยืนยัน จะนอนยันด้วยก็ได้ ไม่ว่าไร 555
--------4. รักทำให้มนุษย์เสียสมาธิ, ขาดความเชื่อมั่น และขลาดกลัว แต่ในทางกลับกันสิ่งที่ตามมาหลังจากรักไปแล้วกลับดียิ่งกว่า กล่าวคือ มีอีกคนเข้ามาทดแทนและช่วยเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไปจากชีวิตของฝ่ายที่มีรัก ดังนั้น ความกล้าและความมั่นใจจึงกลับคืนสู่คนนั้นอย่างมีเหตุมีผล จนคุณตระหนักว่า ชีวิตของคุณไม่ใช่เรื่องบ้าบอคอแตกและไร้สาระอีกต่อไป นั่นแหละที่เรียกกันว่า “อินเลิฟ” ล่ะ
--------5. ไม่รู้หรอกว่า รักคืออะไร? รู้แต่ว่า รักไม่เคยเปลี่ยนแปลงละกัน อุ้ย จะบอกว่า รักยืนยงคงกระพันสินะ.....ขอให้จริง ขอให้จริง เพี้ยง!
--------6. รักคือการเรียนรู้ของคน 2 คน ถ้าเค้าพร้อม เราก็พร้อม...โอ้ลั่นล่า
--------7. รักคือแสงสว่างของชีวิต เมื่อฉันและเธอเคียงคู่อยู่ด้วยกันตลอดไป โอมมะรึกกึกกึ๋ย ขอให้รักนี้ไม่ใช่ฝันกลางวัน หรือฝันเลื่อนลอยทีเถิ้ด
--------8. รักคือการเป็นคนรักที่ดีให้กับ "คนที่เรารัก"....แต่อะไรที่พลั้งเผลอทำไม่ดีไปนิดหน่อย ก็ขอให้ดาร์ลิ่งช่วยอภัยให้ด้วยนะคนดี....มีงี้ด้วย?
--------9. รักคือไม่เคยหวั่นไหวไม่เจ้าชู้ แต่ขอหยุดที่เธอเพียงคนเดียว ก็มีสุขแล้ว
--------10. ความรักไม่ใช่การคิดแต่จะเอาชนะคะคานกัน ความรักไม่ใช่ความเห็นแก่ตัว, ไม่ใช่เกลียด "ในสิ่งที่เค้าเป็น" ตรงกันข้าม เราควรรักในสิ่งที่เค้าเป็น และอย่าไปเปลี่ยนแปลงตัวตนของเค้าให้เป็น "คนในแบบที่เราต้องการ" ต่างหากล่ะ....ล้ำลึกและหนักแน่นจ้ะ
--------11. รักคือวิกฤติของชีวิตที่ทำให้เรามารักกันไม่ทันไร ก็ต้องจากกันซะและ! แต่ยังไม่ได้บอกซะหน่อยนะ ว่าคู่นี้เค้าจากกันเพราะอะไร? อย่าเพิ่งตีโพยตีพายว่า คู่นี้สงสัยจากกันไม่ดีแหงเลยไปซะก่อน เพราะคนรักกันเห็นจากกันทั้งๆ ที่ยังเลิฟก็ถมเถไป
--------12. ความรักทำให้เราอยากมีเวลาส่วนตัว เพื่อที่จะได้อยู่กับคนที่เรารัก...หวานซ้า
--------13. ความรักมีอยู่กระจัดกระจาย ถ้าคุณไม่ปิดตาปิดหูปิดจมูกของตัวเองซะอย่าง คุณก็จะเจอความรักสักวันแน่ๆ
--------14. เชื่อว่าความรักเกิดขึ้นอย่างไม่มีเหตุผล ดังนั้น หากจะรักก็รักไปเลย ไม่คำนึงถึงเหตุผลหรืออะไรทั้งสิ้น ขออย่างเดียว ถ้ารักก็ช่วยบอกกันหรือแสดงออกให้รู้ ไม่ใช่ทำเป็นอ้ำๆ อึ้งๆ หรือปล่อยให้อีกฝ่ายเก็บไปคิดเอง, ตีความเอาเองแล้วจะดีหรือจ๊ะ? ข้อนี้เป็นไอเดียของน้องนุ่น กรุงเทพชวนให้ไปคิดต่อ หรือชวนสยองก็ไม่รู้ดิ่ อิอิ
--------15. รักคือความเป็นมิตรบวกด้วยความเข้าใจอันดี ผสมกับการไม่ระแวงกัน อย่างไร้สติ รวมทั้งไม่ "หูเบา" ฟังใครเค้าพูดถึงแฟนเราไม่ดีอย่างโง้นอย่างงี้ก็อย่าปักใจเชื่อ....โอ้ มายเดียร์ เธอต้องหัดใส่ตุ้มหูไว้ซะมั่งแล้วล่ะ สุดท้าย หากรักกันจริงก็อย่าหลอกให้หลงนะฮ้า
http://www.zazana.com/Article/id3813.aspx
วันพุธที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2552
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น