วันอังคารที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2552

Being in Love – ตอนที่ 2

คำว่า “ความรัก” ตามที่เราเข้าใจ กับตามที่ Osho อธิบายไว้อาจจะเป็นคนละความหมายกันก็ได้ ลองติดตามตอนต่อไปครับ . . .
“. . . ความรักจะเปิดทางให้กับอิสรภาพ ไม่ใช่แค่เปิดทางเท่านั้น แต่มันยังทำให้อิสรภาพเข้มแข็งขึ้นด้วย สิ่งใดก็ตามที่ทำลายอิสรภาพย่อมไม่ใช่ความรัก มันต้องเป็นสิ่งอื่น ความรักและอิสรภาพจะมาพร้อมกัน มันเปรียบเสมือนปีกสองข้างของนกตัวเดียวกัน เมื่อใดก็ตามที่ท่านเห็นว่าความรักของท่านนั้นต่อต้านกับอิสรภาพของท่าน หากเป็นเช่นนั้นแสดงว่าท่านกำลังทำอะไรบางอย่างแล้วเรียกมันอย่างผิดๆ ว่าความรัก
จงใช้สิ่งนี้เป็นตัววัด ใช้อิสรภาพเป็นบรรทัดฐาน ความรักต้องให้อิสรภาพแก่ท่าน ต้องทำให้ท่านเป็นอิสระ ต้องปลดปล่อยท่าน เมื่อใดก็ตามที่ท่านเป็นตัวของตัวเองอย่างเต็มที่ ท่านจะมีความรู้สึกสำนึกคุณต่อผู้ที่ได้ช่วยเหลือท่าน ความรู้สึกสำนึกคุณที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเชื่อมั่นศรัทธา มองอีกฝ่ายหนึ่งประดุจเทพยดา เพราะว่าเขาทำให้ท่านเป็นอิสระ หล่อนทำให้ท่านเป็นอิสระ เป็นความรักที่ไม่ได้แปรเปลี่ยนไปเป็นความต้องการเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ
ตอนที่ความรักเสื่อมทรามลง มันจะกลายไปเป็นความต้องการเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ ความหึงหวง การต่อสู้เพื่ออำนาจ การเมือง ความต้องการที่จะอยู่เหนือกว่า การจัดการ การบงการ ร้อยแปดพันประการ ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่น่าเกลียดมาก แต่ตอนที่ความรักได้ถูกฟูมฟักจนถึงจุดสูงสุด ประดุจห้วงนภาอันบริสุทธิ์ มันจะกลายเป็นอิสรภาพ เป็นอิสรภาพอย่างแท้จริง
หากท่านกำลังมีความรัก ความรักในแบบที่ข้าพเจ้าพูดถึงนี้ ความรักของท่านจะช่วยเชื่อมประสานสิ่งต่างๆ เข้าด้วยกัน ความรักที่แท้จริงของท่านจะเป็นแรงเชื่อมประสานให้กับทุกๆ ท่าน ความรักของท่านจะทำให้คนมีความเป็นทั้งหมด มีเอกลักษณ์ของตนเอง มีความเป็นปัจเจกชน เพราะความรักของท่านนั้นมาพร้อมกับอิสรภาพ คนทั้งหลายจะสามารถเติบโตได้ภายใต้ร่มเงาแห่งความรักของท่าน ภายใต้การป้องกันดูแลนั้น . . .”

ขอบคุณข้อความจาก http://gotoknow.org/blog/beyondkm/293534

1 ความคิดเห็น:

  1. สิ่งเดียวที่เราจะสามารถรักผู้อื่นได้โดยไม่มีเงื่อนไข คือ มีสติ ตื่นรู้ อยู่กับปัจจุบัน ^^ อดีตเป็นเพียงความทรงจำของเรา อนาคตเป็นเพียงจินตนาการของเรา มันไม่ได้มีอยู่จริง สิ่งที่มีอยู่จริงคือปัจจุบันขณะต่างหากค่ะ หากเรามีสติ ดอกไม้ จะบานในใจเราเสมอ

    ตอบลบ